XAM Daily / 15 Nov 2023




ภาพรวมตลาด

  • US บวกแรงหลัง CPI ต่ำคาด ยีลด์พันธบัตรอ่อนตัว 

แนวโน้มตลาดวันนี้

  • แนวโน้มตลาดหุ้นเอเชียคาดว่าวันนี้อยู่ในแดนบวกโดยตลาดหุ้นออสเตรเลีย ญี่ปุ่น จีน เปิดบวก (+) XSpring AM มองว่าจะมี Fund-Inflow เข้า EM มากขึ้นหลังเงินเฟ้อ CPI สหรัฐต่ำคาด (+) หุ้นไทยยัง Underperformed มองกองทุนหุ้น Alpha Fund และหุ้นปันผลที่ราคาต่ำกว่ามูลค่า (มี Margin of Safety) ถึงน่าสนใจ (+) 
  • XSpring AM แนะนำนักลงทุนเพิ่มการลงทุนในส่วนของ Private Credits สำหรับนักลงทุนรายใหญ่พิเศษ (UI) ส่วนการลงทุนในกองทุนหุ้นให้อยู่ในหุ้นที่เป็น Quality & Growth ที่ Valuation สมเหตุสมผล (+) จะให้ Risk/Reward ที่ดีกว่า และไม่ต้องกังวล Tail-Risk ระหว่างที่ลงทุน )

Daily Focus

  • เมื่อคืนนี้ตลาด Risk-On ขึ้นอย่างมากในระยะสั้นโดย Fear & Greed Index ปรับขึ้นจากระดับ 40 เป็น 47 โดย US 10Y Yield อยู่ที่ 4.445% หลังเงินเฟ้อ CPI เดือน ต.ค. เทียบรายเดือน ออกมาต่ำคาดที่ 0% (Exp. 0.1%) และ Core CPI ที่ 0.2% (Exp. 0.3%) Core Services CPI ส่วนที่น่ากังวลก่อนหน้านี้อย่าง Shelter CPI ก็เพิ่มขึ้นเพียง 0.33% เทียบรายเดือน ซึ่งตัวเลขเงินเฟ้อสำคัญที่ต่ำคาด ทำให้ตลาด Priced-In ความเป็นไปได้ที่เฟดจะหยุดขึ้นดอกเบี้ย โดย FedWatch Tool สะท้อนว่านักลงทุนให้น้ำหนัก 100% ว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยที่ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือน ธ.ค. 2023 และเดือนม.ค. 2024 จึงเกิดแรงซื้อเข้าพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้สหรัฐจนทำให้ US 10Y Yield อ่อนตัวลงมาที่ 4.4% และหุ้น Small-Caps Growth ซึ่งก่อนหน้านี้ Underperformed ปรับตัวขึ้นมาได้แรงมาก (+) ซึ่งหากหุ้นในดัชนี Russell 2000 Growth ปรับขึ้นต่อ รวมถึงหุ้นนอกเหนือจาก Giants-Cap ใน S&P 500 (S&P 500 Equal Weight) ปรับตัวขึ้นต่อได้ จะทำให้ Market Breadth ของตลาดดูดีขึ้น ซึ่งจะยิ่งสนับสนุนโมเมนตัมเชิงบวกในช่วงที่เหลือของปี 2023 (+) จนกว่าตลาดจะไป Priced-In ปัจจัยใหม่ เช่น การยกระดับความรุนแรงของสงคราม รวมถึงความเสี่ยงเศรษฐกิจจากการที่ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐเริ่ม Negative Surprise ติดต่อกัน เป็นต้น ) ด้านดัชนี Redbook Index วัดการเติบโตของยอดขายร้านค้าสหรัฐเทียบรายปีในสัปดาห์ที่แล้วออกมาที่ 3% ลดลงจากครั้งก่อนที่ 3.1% ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดเล็กสหรัฐ NFIB ออกมาที่ 90.7 ในเดือน ต.ค. ลดลงจากเดือนก่อนที่ 90.8 ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐยังชะลอตัวลงแบบไม่มากไม่น้อยจนเกินไป เลยเกิดเป็นสถานการณ์ที่ดีในระยะสั้น (+) แต่ต้องระวังจุดหักเหที่ตลาดจะเริ่มกลับมากังวลเศรษฐกิจจริง (Real Sector) ถึงจุดนั้นทั้งหุ้น Cyclical และ Small-Cap ก็จะเกิดแรงเทขาย (-) 
  • GDP Q3 2023 ยุโรปเทียบรายไตรมาสออกมาหดตัวตามคาดที่ -0.1% ส่วนเทียบรายปีขยายตัวที่ 0.1% ตามคาด ด้านการจ้างงานรายไตรมาสขยายตัวมาที่ 0.3% จากไตรมาสก่อนที่ 0.2% ส่วนผลสำรวจเซ็นติเมนต์เศรษฐกิจยุโรป ZEW เดือน พ.ย. เพิ่มขึ้นมาที่ 13.8 จาก 2.3 ในเดือนก่อน ภาพรวมเห็นทิศทางเศรษฐกิจยุโรปที่เริ่มไม่ได้ออกมาแย่กว่าคาด และเริ่มเห็นตัวเลขสะท้อนการฟื้นตัวอ่อนๆ (+) 
  • GDP Q3 2023 ญี่ปุ่นเทียบรายไตรมาสหดตัวมากกว่าคาดที่ -0.5% (Exp. -0.1%) เมื่อเทียบแบบ Annualized หดตัวกว่าคาดที่ -2.1% (Exp. -0.6%) ซึ่งปัจจัยกดดัน GDP ญี่ปุ่นต่ำคาดมาจากการที่ภาคธุรกิจชะลอการใช้จ่าย รวมถึงยอดการนำเข้าที่มากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะยิ่งทำให้แบงค์ชาติญี่ปุ่นชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตให้นานขึ้น จนกว่าจะแน่ใจว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัวแข็งแรงสอดคล้องกันในทุกภาคส่วนเศรษฐกิจ และเงินเฟ้ออยู่ในระดับอ่อนๆจูงใจการใช้จ่าย แต่ไม่กระทบความเชื่อมั่นฝั่งต้นทุนของภาคธุรกิจ ) 
  • ปธน. สหรัฐ คุณโจ ไบเดนแสดงท่าที่ต้องการเจรจากับ ปธน. สี จิ้นผิง โดยต้องการให้ความสัมพันธ์ด้านการทหารและการสื่อสารในเรื่องทั่วไปกลับมาเป็นปกติมากขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา XSpring AM มองถือเป็นการลดแรงเสียดทานทางการเมืองในระยะสั้น/ระยะกลาง (+) ซึ่งแรงจูงใจสำคัญของสหรัฐคือไม่ได้ต้องการเพิ่มความเสี่ยงเงินเฟ้อในช่วง 1 ปีสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง ปธน. สหรัฐ (+) ส่วนจีนเองก็ไม่ได้อยากมีศึกนอกประเทศในสถานการณ์ที่กำลังจัดโครงสร้างหนี้ในประเทศอยู่ (+)
  • ยอดค้าปลีกจีนเทียบรายเดือนในเดือน ต.ค. ขยายตัวมากกว่าคาดที่ 7.6% (Exp. 7%) ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมจีนออกมามากกว่าคาดที่ 4.6% (Exp. 4.5%) มีเพียงการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรที่ออกมาต่ำคาดที่ 2.9% (Exp. 3.1%) จากภาคอสังหาที่ยังชะลอตัวลง ด้านปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารรถไฟในประเทศจีนเติบโตแข็งแกร่งในเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 195.6% สะท้อนเศรษฐกิจจีนค่อยๆฟื้นตัวกลับมา (+) ด้านยอดขายรถ EV จีน (ผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดในโลก) เพิ่มขึ้น 29% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี และคาดว่าช่วงที่เหลือจะส่งออกมากขึ้นจากปัจจัยตามฤดูกาล (+) 
  • กระทรวงการคลังแถลงข้อสรุปหลักเกณฑ์มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดตั้งกองทุน Thailand ESG Fund แต่วงเงินลงทุนที่ไม่เกิน 100,000 บาท/ราย น้อยกว่าที่ตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ 200,000-300,000 บาท/ราย และรวมกันกับการลดหย่อนภาษีอื่นๆไม่เกิน 500,000 บาท ไม่ได้สนับสนุนตลาดหุ้นไทยเท่าที่ควร (-) 

กลยุทธ์การลงทุน

  • Overweight หุ้น Large-Cap Growth สหรัฐ (Ex Tesla, NVIDIA) มีโอกาสสะสมลงทุนในระยะสั้นหลังราคาปรับตัวลงมาในช่วงก่อนหน้านี้
  • Overweight หุ้นไทย Mid-Small Cap Stock มีโอกาสสำหรับกองทุนที่เลือกหุ้น Super Stock คาดโมเมนตั้มกำไร Q3 2023 ยังน่าจะดี และคาดธุรกิจที่เกี่ยวกับภาคบริการยังเติบโตดี นอกจากนี้ยังชองกองไทย Healthcare มองว่ายังเป็นภาคส่วนที่เป็น Growth Engine สำคัญของไทย
  • Overweight Japan Value Stock
  • Slightly Overweight หุ้นสหรัฐ Small-Cap Growth มีโอกาสฟื้นตัว
  • Slightly Overweight หุ้น Semiconductor ทยอยสะสมลงทุ

คำแนะนำ

  • ASP-NGF, TMBJPNAE หุ้นญี่ปุ่น
  • TMBINDAE, SCBKEQTG อินเดีย & เกาหลีใต้
  • SCBPGF หุ้นโลก Value, UGD หุ้นกลางเล็ก Durable
  • K-GHEALTH หุ้น Healthcare, ONE-HOSPITAL หุ้นไทยและหุ้นโลก Healthcare
  • ABAGS หุ้นขนาดกลางเล็กสหรัฐ Blended Character
  • ASP-SME, ABSM, ASP-T12, M-MIDSMALL, TLMSEQ เป็นกองหุ้นไทย Alpha 
  • TMB-ES-GCG, K-GTECH
  • SCBUSAA รับ 4.5 บาท, KF-US รับ 11.1 บาท, SCBROBOA รับ 13.4 บาท
  • เก็งกำไร M-META ที่ราคา METV ETF 10$ , TMB-ES-GINNO ที่ราคา ARKK ETF 39$ และ LHSEMI ที่ราคา SOXX ETF 450-470$

XSpring AM

Source: Bloomberg, Reuter