Things you need to know
- 1. “หุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น หลังถูกเทขายเพราะการเมืองฝรั่งเศสไม่นิ่งตลอดสัปดาห์ที่แล้ว” เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้น 0.23% มาอยู่ที่ 551.43 จุด หลังจากถูกเทขายมาตลอดสัปดาห์เนื่องจากสถานการณ์การเมืองของฝรั่งเศสที่ไม่มีเสถียรภาพ สาเหตุสำคัญที่ทำให้หุ้นยุโรปกลับมาบวกอีกครั้งเกิดจากดีลข้อตกลงระหว่างรัฐบาลนอร์เวย์และอังกฤษ โดยนอร์เวย์สั่งซื้อเรือรบฟริเกตประเภท 26 ที่เป็นเรือรบขนาดเบาและติดอาวุธรบได้หลายแบบจากอังกฤษ มูลค่ารวม 1 หมื่นล้านปอนด์ โดย BAE Systems จะเป็นผู้ต่อเรือครั้งนี้ ทำให้กลุ่มอาวุธยุทโธปกรณ์ปิดบวกหนุนตลาด
- 2. “ตัวเลขภาคการผลิตของจีนปรับเพิ่มขึ้น ฝั่งเอเชียอื่นผสม” โดย RatingDog Manufacturing PMI ที่เป็นผลการสำรวจผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อดำเนินการโดยภาคเอกชน (เดิมคือ Caixin - ทำโดย S&P Global) สำหรับเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 50.5 หน่วย ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคมที่ 49.5 หน่วย และมากกว่าที่ตลาดคาด 49.7 หน่วย อย่างไรก็ตามคำสั่งซื้อใหม่ยังคงหดตัว ด้านอินโดนีเซียอยู่ที่ 51.5 หน่วย และไทยที่ 52.7 หน่วย เพิ่มขึ้นมากสุดในรอบ 13 เดือน ส่วนเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และไต้หวัน อยู่ที่ระดับต่ำกว่า 50 หน่วย ที่ถือเป็นระดับขยายตัวของเศรษฐกิจ
- 3. “สถานการณ์ในอินโดนีเซียยังรุนแรง กดดันตลาดหุ้น-ค่าเงิน” สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาอินโดนีเซียเกิดการประท้วงอย่างรุนแรงหลังรัฐสภาสภาอนุมัติงบค่าบ้านให้กับสมาชิกสภาต่อราย เดือนละ 50 ล้านริงกิต (ราว 3 พันดอลลาร์ ประมาณ 1 แสนบาทไทย) มากกว่าค่าแรงขั้นต่ำของประเทศมากกว่า 10 เท่า ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ยังไม่ดี ทำให้เกิดการประท้วงและมีผู้เสียชีวิตจากการปราบปราม 1 ราย และรัฐบาลยังจัดการสถานการณ์ไม่ได้ ด้านตลาดหุ้นอินโดนีเซียปรับตัวลดลง -1.21% มาอยู่ที่ 7,736.07 จุด ส่วนค่าเงินอ่อนค่าลงอยู่ที่ 16,443.0 อินโดนีเซียรูปีต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเช้านี้
- 4. “ทรัมป์เผยอินเดียพร้อมลดกำแพงภาษีสินค้าสหรัฐฯ เหลือ 0% ด้านโมดีพบปูตินชื่นมื่น” ทรัมป์ออกมาระบุบนสื่อสังคมออนไลน์ของเขาว่า อินเดียพร้อมลดกำแพงภาษีสินค้าสหรัฐฯ เหลือ 0% แต่ระบุว่ามาช้าเกินไป ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่แน่นอนว่าจะมีการเจรจาครั้งใหม่หรือไม่ ด้านนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย เข้าพบปูติน ผู้นำรัสเซียที่จีน โดยสวมกอดทักทายและระบุว่าทั้งสองชาติจะเป็นพันธมิตรระหว่างกัน
- 5. “บริษัทยักษ์ใหญ่ประเมิน หุ้นอเมริกา-ยุโรป จะปรับตัวขึ้นอีก” Evercore ISI วานิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐอเมริการะบุว่าหุ้นสหรัฐฯ มีโอกาสขึ้นต่ออีก 20% จนถึงสิ้นปี 2026 แตะระดับ 7,750 จุด หลังจากกระแสพัฒนา AI ยังเป็นแรงส่งให้ตลาด ด้าน Goldman Sachs และ J.P. Morgan ประเมินว่าหุ้นยุโรปจะยังคงไปต่อ โดย GS มองว่า STOXX 600 มีโอกาสจบปีที่ 560 จุด ส่วน JPM ประเมินว่าช่วงเวลาซื้อหุ้นยุโรปกำลังใกล้เข้ามาจากการปรับฐานและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน
|
|