XAM Daily Xpresso / 24 ธันวาคม 2024




XAM Shot

  • “Wall Street ฟื้นตัว นำโดยหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางก่อนปิดคริสมาสต์ ตลาดยังคาดหวัง Santa Claus Rally ในปีเลือกตั้งสหรัฐฯ อาจดันหุ้นขึ้นส่งท้ายปี”

Things you need to know

  • 1. “ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ และยอดซื้อสินค้าคงทน ต่ำกว่าคาด แต่ยอดขายบ้านใหม่โตขึ้น” Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 104.7 ในเดือนธ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 113.8 จากระดับ 112.8 ในเดือนพ.ย. ขณะที่ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนลดลง 1.1% ในเดือน พ.ย. นอกจากนั้นยอดขายบ้านใหม่โตขึ้น 5.9% แม้ราคาบ้านใหม่จะปรับตัวลดลงด้านตลาดหุ้นตอบรับข่าวนี้เป็นบวกโดยดัชนี S&P 500 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.73% ไปอยู่ที่ 5,974.07 จุด นำโดยหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในกลุ่ม MAG7 ที่ฟื้นตัวหลังปรับฐานแรงเมื่อสัปดาห์ก่อน
  • 2. “สถิติชี้ "ซานต้า แรลลี่" หนุนตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพุ่งช่วงสิ้นปี” Stock Trader's Almanac เปิดเผยว่า จากการรวบรวมข้อมูลในอดีต พบว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทมักพุ่งขึ้นในการซื้อขายช่วงเทศกาลคริสต์มาส โดยมักจะเกิดขึ้นเป็นเวลา 7 วันทำการ คือในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปีปัจจุบัน รวมทั้ง 2 วันแรกของปีใหม่ โดยเฉลี่ย S&P500 มีโอกาสปรับขึ้น 1.3% จากข้อมูลสถิติย้อนไป 54 ปี นอกจากนี้ในปีที่เป็นปีเลือกตั้งสหรัฐฯ ตลาดหุ้นในเดือนธันวาคมก็มักจะทำผลงานได้ดีเช่นกัน ทั้งนี้แนวโน้มหุ้นสหรัฐฯในช่วงต้นปี 2025 ยังคงต้องใช้ความระมัดระวัง โดยแนะนำให้ติดตามการปรับประมาณการ EPS และสัญญาณทางเทคนิคอย่างใกล้ชิด แม้ตลาดหุ้นสหรัฐฯจะแข็งแกร่งที่สุดในทุกตลาด แต่เป็นไปได้ว่าปี 2025 นี้ อาจไม่ราบรื่นเมื่อเทียบกับปี 2024  
  • 3. “ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกาหลีใต้ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2565 เซ่นพิษการเมือง” ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกาหลีใต้ร่วงลงสู่ระดับ 88.4 ในเดือนธ.ค. จาก 100.7 ในเดือนพ.ย. ถือว่าต่ำที่สุดนับตั้งแต่ดัชนีแตะระดับ 86.6 ในเดือนพ.ย. 2565 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดเหตุฝูงชนเบียดกันตายในเทศกาลฮาโลวีนจนมีผู้เสียชีวิต 159 ราย ปัจจัยลบจากความไม่แน่นอนทางการเมือง ภายหลังรัฐสภาลงมติถอดถอนประธานาธิบดียุน ซอกยอล ทั้งนี้ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ยังเคลื่อนไหวอ่อนแอ ดัชนี KOSPI ปรับตัวลงต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือน ก.ค. ซึ่งคาดว่าตลาดได้รับปัจจัยนี้ไปในราคาแล้ว และอาจมีการฟื้นตัวในช่วงสั้นๆ เช่นเดียวกับหุ้นในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ที่พยายามฟื้นตัวกลับขึ้นมาบ้าง  
  • 4. “เริ่มแล้ว! สหรัฐฯ เปิดการสอบสวนการค้าเซมิคอนดักเตอร์ของจีน” จากรายงานข่าวเมื่อวานนี้จะเห็นว่า TP-Link ผู้ผลิตอุปกรณ์อินเตอร์เน็ตจากจีนถูกสอบสวนด้วยข้อสงสัยเกี่ยวกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ และต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่จะมีการตรวจสอบบริษัทชิปจีน ที่อาจส่งผลให้มีการดำเนินมาตรการทางภาษี หรือมาตรการอื่น ๆ ล่าสุดได้เริ่มดำเนินการแล้ว บนสมมติฐานที่ว่า จีนยังคงใช้แนวทางปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจชิป และบั่นทอนความสามารถในการแข่งขันของบริษัทอเมริกัน โดยอยู่ภายใต้มาตรา 301 ของกฎหมายการค้าของสหรัฐฯ ปี 2517 โดยตลาดหุ้นจีนยังไม่ตอบสนองเชิงลบเท่าไหร่นัก โดยดัชนี HSCEI ยังมีความพยายามจะรีบาวนด์ในระยะสั้น ท่ามกลางปัญหาทั้งภายในและภายนอก แนะนำให้เก็งกำไรด้วยความระมัดระวัง จนกว่าจะมีหลักฐานยืนยันที่มากพอว่าเศรษฐกิจจีนจะกลับมาเติบโตจึงจะแนะนำให้เข้าลงทุน
  • 5. “ญี่ปุ่นปรับแผนพลังงาน เน้นความมั่นคงควบคู่กับเป้าหมายลดโลกร้อน” ร่างยุทธศาสตร์พลังงานใหม่ของญี่ปุ่นคาดว่าพลังงานหมุนเวียนจะมีสัดส่วน 40%-50% ภายในปี 2040 แม้เป็นก้าวสำคัญแต่ยังไม่พอสำหรับเป้าหมายลดคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ โดยญี่ปุ่นใช้ก๊าซธรรมชาติ และพลังงานหมุนเวียนเพื่อรองรับความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นจาก AI และศูนย์ข้อมูล อย่างไรก็ตาม การให้ความสำคัญกับความมั่นคงด้านพลังงานยังเป็นความท้าทายอย่างมาก เมื่อต้องทำควบคู่ไปกับเป้าหมายลดโลกร้อน ซึ่งในระยะสั้นอาจต้องใช้พลังงานฟอสซิลมากขึ้น และวางแผนเพิ่มกำลังไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงอื่นเพื่อทดแทนและลดคาร์บอนต่อไป

Daily Trend

  • "ตลาดตอบรับการลดดอกเบี้ยในแง่ลบ หลังประเมินปี 2025 ลดต่ำกว่าคาด” หลังจาก FED ประกาศลดดอกเบี้ยโดยประเมินว่าปีหน้าอัตราดอกเบี้ยจะลดช้าลงเหลือ 2 ครั้งเนื่องจากเงินเฟ้อลงช้ากว่าที่คาดไว้ ทำให้ตลาดตอบรับในทางลบ โดย TS Lombard ประเมินดอกเบี้ยสหรัฐฯ จะอยู่ในระดับ 4.00% ในปีหน้า ทำให้เส้นทางการลดดอกเบี้ยหลังจากนี้อาจไม่ได้ลึกแบบที่ประเมินไว้ตอนแรก ตามมาด้วยการขายสินทรัพย์ทั้งหุ้นและตราสารหนี้ ทั้งนี้ผลกระทบจากการขายทรัพย์สินเหล่านี้เป็นเพียงผลกระทบในระยะสั้นเท่านั้น และจะต้องติดตามปัจจัยเงินเฟ้อในช่วงถัดไปว่าจะลงได้มากน้อยเพียงใด ทั้งนี้หากยังลงได้ช้าโอกาสที่ดอกเบี้ยจะยืนสูงนานก็เพิ่มขึ้นด้วย
  • “ปัจจัยที่ต้องติดตาม” ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานรายใหม่ที่ 2.23 แสนราย รอบ 2 สัปดาห์แรกของเดือนธันวาคม ในวันพฤหัสบดี


XSpring AM