Daily Focus
- US 10Y Yield พุ่งตัวขึ้นไปที่ 4.43% ก่อนจะปิดอ่อนตัวลงมาที่ระดับ 4.35% ทำให้ VIX Index พุ่งขึ้น +6.88% มาที่ระดับ 14.6 โดยราคาระหว่างวันทะลุเส้น 200 DMA ขึ้นไป กดดันแรงเทขายหุ้นสหรัฐโดยเฉพาะหุ้นขนาดกลางเล็กและ High PE Stock โดยหุ้น Tesla ปรับตัวลงแรงถึง -4.9% มองเป็นการปรับฐานหลังตลาดหุ้นฟื้นตัวต่อเนื่องตั้งแต่หลังสิ้นเดือน ต.ค. 2023 และหุ้นสหรัฐปรับขึ้นได้ดีมากใน Q1 2024 โดยที่เศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งขึ้นต่อเนื่อง โดยคำสั่งซื้อภาคโรงงานเดือน มี.ค. เทียบรายเดือนขยายตัวที่ 1.4% มากกว่าคาดและมากกว่าระดับติดลบเดือนก่อน โดยทุก Indicators ตอกย้ำ Cycle เศรษฐกิจภาคการผลิตที่ดูดีขึ้น XAM มองหุ้น Cyclical จะทนทานต่อยีลด์เร่งตัวมากกว่า Growth Stock โดย XAM มองหุ้น Financial จะแข็งแกร่งต่อเนื่องบนเศรษฐกิจที่แข็งแรงและเฟดที่ค่อนข้าง Dovish (Tactical-Play US Cyclical ex Energy/Neutral US)
- US API Weekly Crude Oil ลดลงมากกว่าคาดประกอบกับความตึงเครียดทางการเมืองซึ่งกว่า 12% ของ Supply น้ำมันที่ต้องมีการขนผ่านทางทะเลถูกกระทบจากความขัดแย้งดังกล่าว“ กดดันให้ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นเกือบแตะระดับ 85$ ใกล้ระดับ High เดิมเดือน ต.ค. 2023 โดย OPEC ผลิตน้ำมันในเดือนมี.ค.รวมกันทั้งสิ้น 26.42 ล้านบาร์เรล/วัน ลดลง 50,000 บาร์เรล/วันจากระดับของเดือนก.พ. และวันนี้จะมีการประชุมหากมีการปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมคาดราคาน้ำมันจะไปต่อได้ (Supply Squeeze) ส่วน S&P 500 Energy Sector ETF (XLE ETF) ปรับขึ้นเหนือค่าเฉลี่ยทุกราคาปิดที่ระดับ 96.4$ ซึ่งยิ่งน้ำมันปรับตัวขึ้นมาพร้อมแนวโน้มทรงตัวในโซนสูง ยิ่งเพิ่มความคาดหวังว่า Headline Inflation ในระยะถัดไปจะยิ่งยืนในระดับสูง (Global Value Outperformed Global Growth)
- หุ้นยุโรป Outperformed สหรัฐ โดยหุ้นใหญ่ยุโรป Stoxx 50 มีความเป็น Value Character ทนทานต่อแรงกดดันด้านความคาดหวังเงินเฟ้อฝั่งต้นทุน ด้านหุ้น FTSE 100 Outperformed หุ้นเยอรมันและฝรั่งเศสที่มีคาแรคเตอร์ความเป็น Growth มากกว่า ซึ่งด้วย Valuation ที่น่าสนใจ ประกอบกับโมเมนตัมตัวเลขเศรษฐกิจภาคการผลิตประเทศใหญ่ดูดีขึ้น XAM มอง Stoxx 600, Stoxx 200 Small-Cap & Dax Index จะให้ Risk/Reward ที่ดีกว่าหุ้น Developed Market ประเทศอื่นๆ (Slightly Overweight)
- ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นรวมถึง Interest Rates Gap ระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่น คาดจะยิ่งสร้างแรงกดดันให้ญี่ปุ่นใช้นโยบายการเงินเพื่อจำกัดการอ่อนค่าของเงินเยน เพื่อลดผลกระทบด้านต้นทุนการนำเข้าน้ำมัน หุ้นญี่ปุ่นยังมีโอกาสได้อานิสงส์ช่วงประกาศงบ Q1 ช่วงต้นเดือน พ.ค. แนะนำ Buy-On-Dip กลุ่ม Laggards-Play เช่น Mid/Small Value ตอนย่อตัว (Take Profit from Nikkei 225 & Big Cap Equity/Rotate to Mid/Small Cap Value)
- ปธน. สีจิ้นผิงมีการสนทนาอย่างเป็นทางการกับ ปธน. โจ ไบเดน เมื่อวานนี้ผ่านการคอลในประเด็นสำคัญอย่างเช่น สถานการณ์ในทะเลจีนใต้ รัสเซียและยูเครน ช่องแคบไต้หวัน คาดจะเป็นการพยายามลดความขัดแย้งเพื่อบรรลุเป้าหมายทั้งสองผู้นำในระยะสั้น/กลาง ในแง่จีนเพื่อให้เศรษฐกิจภาคการผลิตเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโต ในแง่สหรัฐเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ หลีกเลี่ยงอัตราการว่างงานพุ่งตัวและเศรษฐกิจถดถอยเพื่อความหวังในการชนะเลือกตั้งสมัยสองของเดโมแครต XAM มองเห็นหุ้นจีนมีความแข็งแกร่งมากขึ้น แต่ยังแนะนำสองกรณี 1. ลงทุนใน CSI 300 Index 2. ลงทุนใน Greater China หรือ Asia/EM Alpha Fund มากกว่าลงทุนในกอง China Active Fund แบบดั้งเดิม (China Deleveraging Trend)/Over Allocated Investor Trim at HSCEI +/- 200 DMA switch to >>> EM/Asia Alpha Fund, Slightly Overweight India)
- หุ้นใหญ่ไทยได้แรงหนุนหุ้นพลังงานไทยค้ำยันดัชนีหุ้นไทย โดยคาดกลุ่มพลังงานจะเป็นปัจจัยสนับสนุนความน่าสนใจของหุ้นไทยในระยะสั้นคล้ายสถานการณ์ปี 2022 กองทุนที่ลงทุนเฉพาะเซคเตอร์พลังงานจะโดดเด่น หรือกลุ่ม Defensive เช่นกลุ่มโรงพยาบาล ในขณะที่หุ้นกลางเล็กเติบโตยังค่อนข้างลำบากจนกว่าจะมีลมหนุนด้าน Fund Flow และ Multiple Expansion จากการที่ Market Participants กลับมาลงทุน (Neutral Thai/Over Allocated Investor Trim at SET 1,440+)
|
|