Things you need to know
- 1. “หุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ได้อีกครั้ง” ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,445.76 จุด เพิ่มขึ้น 72.31 จุด หรือ +1.13% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,681.90 จุด เพิ่มขึ้น 296.50 จุด หรือ +1.39% หุ้นทั้ง 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ต่างปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสารพุ่งขึ้น 1.8% ตามด้วยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี พุ่งขึ้น 1.4% หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค.ที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาเรียกร้องให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนให้น้ำหนัก 98% ต่อการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย.
- 2. “ดัชนี S&P/ASX 200 ของออสเตรเลียขยับขึ้น 0.2% แตะระดับสูงสุดใหม่ที่ 8,867.70 จุด” เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมรอบวันอังคารที่ผ่านมา แรงสนับสนุนในการลดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนแอและสัญญาณการชะลอตัวของตลาดแรงงาน อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จาก ING ระบุว่า พวกเขายังสงสัยว่า RBA จะให้แนวทางที่ชัดเจนพอที่จะทำให้ตลาดมั่นใจว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ในเดือนธันวาคม หรือเร่งการปรับลดจากเดือนพฤศจิกายนมาเป็นกันยายน
- 3. “สหรัฐฯ เลื่อนขึ้นภาษีสินค้าจีนอีก 90 วัน ก่อนเส้นตายไม่กี่ชั่วโมง” สำนักข่าวอินโฟเควสต์รายงาน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร เพื่อขยายเวลาข้อตกลงพักรบทางภาษีระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ออกไปอีก 90 วันแล้ว เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่อัตราภาษีของสหรัฐฯ ต่อสินค้าจีนจะกลับไปสูงถึงเลขหลักร้อย ปัจจุบัน สินค้านำเข้าจากจีนต้องเสียภาษีในอัตรา 30% ซึ่งประกอบด้วยอัตราพื้นฐาน 10% และภาษีที่เกี่ยวข้องกับเฟนทานิลอีก 20% ส่วนจีนก็ได้ลดอัตราภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ ลงมาที่ 10% เช่นกัน
- 4. “Oklo Inc. รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2025” ขาดทุนมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ โดยมีกำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ -$0.18 ซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ -$0.12 ถึง 50% แม้ว่าบริษัทจะมีผลตอบแทนสะสมตั้งแต่ต้นปีถึง 238% ก็ตาม บริษัทมีผลขาดทุนจากการดำเนินงาน 28 ล้านดอลลาร์ และยังคงมีเงินสดและหลักทรัพย์ในมือ 683 ล้านดอลลาร์ โดยยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ Aurora ซึ่งตั้งเป้าเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในช่วงปลายปี 2027 หรือต้นปี 2028 พร้อมทั้งระดมทุนได้แล้ว 460 ล้านดอลลาร์ผ่านการขายหุ้น บริษัทยังคงมั่นใจในศักยภาพระยะยาว ด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐ ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ และโครงการใน pipeline รวมกว่า 14 กิกะวัตต์.
|
|