Company Group
   ติดต่อเรา    เปิดบัญชีกองทุน

XAM Daily 12 Sep 2023


ภาพรวมตลาด

  • Rebound

แนวโน้มตลาดวันนี้

  • แนวโน้มตลาดหุ้นเอเชียคาดเปิดบวกลบผสมผสาน โดยดัชนีหุ้นออสเตรเลีย -0.3% ด้าน TOPIX +0.12%% และ NIKKEI +0.18%
  • คาดหุ้นจีนโดยเฉพาะ H-Shares มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อจากเมื่อวาน หลังยอดการปล่อยกู้จีนออกมาดีกว่าคาด รวมถึงมาตรการที่มุ่งเพิ่มความมั่นใจในตลาดทุน รวมถึงการผ่อนปรนเกณฑ์ซื้อขายอสังหาในจีน 
  • ฟิวเจอร์สตลาดหุ้นสหรัฐอยู่ในทิศทางลบ (ตอน 8.45 ตามเวลาไทย) จุดที่น่าสนใจคือเมื่อคืนที่ผ่านมาหุ้น Large-Cap Growth ขึ้นมาได้แรงจากความคาดหวัง Theme AI คาดวันนี้อาจเผชิญแรงเทขายทำกำไรก่อนประกาศตัวเลขเงินเฟ้อคืนวันพุธ
  • คืนนี้มีเปิดตัว iPhone 15 ซึ่งหากกระแสความสนใจดีอาจจะดันราคา Apple ให้ฟื้นตัวขึ้นมาได้ ซึ่งหุ้น Apple เป็นองค์ประกอบหลักในดัชนีหุ้น Growth ขนาดใหญ่สหรัฐ แต่หากฟังก์ชั่นไม่หวือหวา ราคาอาจจะลบอ่อนๆ 

Daily Focus

  • หุ้นสหรัฐไม่ได้บวกจากตัวเลขเศรษฐกิจหรือการประกาศผลประกอบการแต่เป็นการฟื้นตัวจากหุ้นใหญ่อย่าง Tesla ที่ฟื้นตัวขึ้น +10% หลังนักวิเคราะห์ปรับเพิ่มคำแนะนำซื้อจากความคาดหวังการนำ AI มาเทรนระบบ Autonomous Driving ดัชนีหุ้น S&P 500 Consumer Discretionary (กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย) ฟื้นตัวตามโมเมนตั้ม Tesla โดยบวกขึ้นกว่า +2.77% ส่วนดัชนี S&P 500 Communication Services (กลุ่มสื่อสาร) +1.17% หลังหุ้น META ปรับขึ้นกว่า +3.25% จากความคาดหวัง AI เช่นกัน ซึ่งหุ้นกลุ่ม Giants Cap Tech ตัวอื่นๆปรับตัวขึ้นตาม Tesla และ Meta ด้าน Qualcomm +3.9% หลังเซ็นสัญญาส่งชิพให้ Apple จนถึงปี 2026
  • หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ยุโรป +2.4% เริ่มกลับมาคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน แม้จะยังต้องใช้เวลา
  • คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของยุโรปลง โดย GDP ยุโรปปี 2023 คาดจะขยายตัว 0.8% จากเดิมคาด 1% ส่วน GDP ปี 2024 คาดจะขยายตัว 1.4% จากเดิมคาด 1.7% ธนาคารกลางญี่ปุ่นส่งสัญญาณว่ามีโอกาสดำเนินนโยบายการเงินตึงตัว (Hawkish) ขึ้นเล็กน้อย โดยกล่าวว่าภายในปี 2023 นี้ก็จะตัดสินใจได้ว่าเงินเฟ้อภาคค่าจ้างค่าแรงเป็นปัจจัยชั่วคราวหรือระยะยาว ซึ่งหากเป็นปัจจัยระยะยาวก็จะเริ่มลดจากการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายสุดขีดในปัจจุบัน แนวโน้มใหญ่คาดจะจำกัดการอ่อนค่าของเงินเยนและอาจค่อยๆแข็งค่าในปี 2024
  • ปธน. โจ ไบเดนและนายก โมดี แห่งอินเดีย ประกาศแผนพัฒนาเครือข่ายเส้นทางรถไฟ ที่การประชุมผู้นำ G20 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะเชื่อมโยงอินเดียกับประเทศต่างๆ ในสหภาพยุโรป (EU) และตะวันออกกลาง เช่น อิสราเอล จอร์แดน ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งจะเป็นการลงทุนระดับภูมิภาค ถือเป็นการเดินเกมเพื่อแข่งขันกับ Belt and Road Initiative ที่จีนต้องการขนายเส้นทางการค้ากับชาติเอเชีย ซึ่งคาดว่าอินเดียจะเติบโตมหาศาลและได้ผลประโยชน์ทางตรงจากปัจจัยดังกล่าว
  • จี่หนาน และชิงเต่า สองเมืองใหญ่ที่สุดในมณฑลซานตงทางภาคตะวันออกของจีน ประกาศยกเลิกกฎข้อบังคับทั้งหมดที่จำกัดไม่ให้ประชาชนซื้อและขายบ้าน หลังก่อนหน้านี้มีการจำกัดจำนวนบ้านที่สามารถซื้อได้ คาดว่าในระยะถัดไปหากประชาชนเริ่มกลับมามีความเชื่อมั่นมากขึ้น ปริมาณการซื้อขายอสังหาในจีนน่าจะค่อยๆดีขึ้น 
  • ยอดขายรถ EV ในจีนเทียบรายปีโตถึง 27% ในเดือน ส.ค. ส่วนยอดขายรวมโตได้ 8.4% สะท้อนภาคส่วนดังกล่าวยังฟื้นตัวได้ดี
  • หน่วยงานกำกับดูแลจีนคลายกฏเกณฑ์เพื่อให้บริษัทประกันจีนลงทุนในหุ้นใหญ่และหุ้นเทคโนโลยีจีน รวมถึง REITs และ Private Equity จีน ได้มากขึ้น (ปรับเกณฑ์ Risk Weighting) คาดว่าหากธุรกิจประกันเติมโต เงินลงทุนบริษัทประกันเติบโต สัดส่วนนักลงทุนสถาบันที่ลงทุนในหุ้นจีนจะมาขึ้นในระยะยาว 
  • ยอดปล่อยกู้ของจีนในรูปสกุลเงินหยวนเดือนส.ค. ออกมาดีกว่าคาด สะท้อนความต้องการสินเชื่อของภาคครัวเรือนและภาคเอกชนจีนเริ่มกลับมาฟื้นตัว
  • หุ้นไทยยังมีแรงขายจากกลุ่มพลังงานและแบงก์ นักลงทุนต่างชาติยังขายหุ้นไทยออกมาต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย. นโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภายังไม่มีประเด็นสนับสนุนตลาดเพิ่มเติม

กลยุทธ์การลงทุน

  • Overweight หุ้นไทย Mid-Small Cap Stock มีโอกาสสำหรับกองทุนที่เลือกหุ้น Super Stock ที่มีโอกาสการเติบโตที่ดีในระยะสั้นและระยะกลาง
  • Overweight หุ้นเอเชียมากกว่ากลุ่มประเทศพัฒนาแล้วสำหรับการลงทุนในระยะกลาง ดอลลาร์อ่อนสนับสนุนหุ้นภูมิภาคตลาดเกิดใหม่
  • Overweight หุ้นอินเดียเห็นแนวโน้มราคาปรับตัวขึ้นได้ดี
  • Overweight หุ้นสหรัฐ Small Cap Growth มีโอกาสฟื้นตัวในระยะสั้น 1-2 สัปดาห์ถัดจากนี้ 
  • Slightly Overweight หุ้น Semiconductor ทยอยสะสมลงทุน
  • Slightly Overweight หุ้น Large-Cap Growth สหรัฐมีโอกาสสะสมลงทุนในระยะกลาง หลังราคาปรับตัวลงมาในช่วงก่อนหน้านี้

คำแนะนำ

  • Overweight หุ้นไทย Mid-Small Cap Stock มีโอกาสสำหรับกองทุนที่เลือกหุ้น Super Stock ที่มีโอกาสการเติบโตที่ดีในระยะสั้นและระยะกลาง
  • Overweight หุ้นเอเชียมากกว่ากลุ่มประเทศพัฒนาแล้วสำหรับการลงทุนในระยะกลาง ดอลลาร์อ่อนสนับสนุนหุ้นภูมิภาคตลาดเกิดใหม่
  • Overweight หุ้นอินเดียเห็นแนวโน้มราคาปรับตัวขึ้นได้ดี
  • Overweight หุ้นสหรัฐ Small Cap Growth มีโอกาสฟื้นตัวในระยะสั้น 1-2 สัปดาห์ถัดจากนี้ 
  • Slightly Overweight หุ้น Semiconductor ทยอยสะสมลงทุน
  • Slightly Overweight หุ้น Large-Cap Growth สหรัฐมีโอกาสสะสมลงทุนในระยะกลาง หลังราคาปรับตัวลงมาในช่วงก่อนหน้านี้

XSpring AM

Source: Bloomberg, Reuter

Download PDF