Things you need to know
- 1. “GlobalData TS Lombard ระบุ ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยธันวาคมนี้ - เป้าหมายดอกเบี้ย 1% กลางปีหน้า” สาเหตุสำคัญของการขึ้นดอกเบี้ย มาจากการที่อัตราเงินเฟ้อของประเทศยังอยู่ในขายืนสูง โดยเฉพาะเงินเฟ้อภาคบริการที่ค่าเฉลี่ยในรอบ 3 เดือนแตะระดับเป้าหมายที่ 2% แล้ว และมองว่าดอกเบี้ยของญี่ปุ่นปีหน้าอาจจบที่ 1% ได้ ซึ่งจะส่งผลลบต่อตราสารหนี้ญี่ปุ่น
- 2. “ตัวเลข Core PCE สหรัฐฯ ออกมาตามคาด ประเมิน FED จะลดดอกเบี้ยค่อยเป็นค่อยไป” เมื่อคืนนี้มีการประกาศตัวเลข Core PCE (ดัชนีค่าใช้จ่ายของผู้บริโภค) ประจำเดือนตุลาคมที่เป็นเลขเงินเฟ้ออีกตัวหนึ่ง ปรากฎว่าออกมาเพิ่มขึ้นที่ +0.2% MoM/+2.3% YoY สำหรับ PCE (ค่าใช้จ่ายโดยทั่วไป) และ +0.3% MoM/+2.8% YoY สำหรับ Core PCE (ค่าใช้จ่ายที่แท้จริง) ซึ่งตรงกับคาดการณ์ของตลาดที่จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ด้านตลาดประเมิน FED จะลดดอกเบี้ยค่อยเป็นค่อยไป ส่วนตลาดหุ้นตอบสนองข่าวเป็นลบอ่อนๆ โดย S&P 500 ลดลง -0.38% ไปอยู่ที่ 5,998.74 จุด ด้านอัตราพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ 4.26%
- 3. “J.P. Morgan ปรับเป้าหมาย S&P 500 ปีหน้าไปที่ 6,500 จุด หลังจากมอง 4,200 จุดมานาน” เหตุผลของการปรับเป้าดังกล่าวมาจากสภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง อัตราการจ้างงานที่ยังดีอยู่ อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในขาลง และการลงทุนระยะยาวในด้านเทคโนโลยี ยังเป็นแรงหนุนที่สำคัญ แม้ประเมินว่าความเสี่ยงทางการเมืองระหว่างประเทศและการเปลี่ยนนโยบายทางการเมืองเป็นความเสี่ยงสำคัญ แต่แง่บวกนั้นชนะแง่ลบได้มากกว่า ทั้งนี้ปัจจุบันค่าเฉลี่ยของนักวิเคราะห์ที่ให้เป้าหมายจาก Bloomberg อยู่ที่ราว 6,300 จุด
- 4. “Goldman Sachs เตือน หากขึ้นกำแพงภาษีที่ 25% กับแคนาดาจริง อาจมีผลกระทบที่มากกว่าที่คิด” โดยเตือนว่าสินค้าประเภทแรกที่จะได้รับผลกระทบคือราคาน้ำมันที่อาจจะแพงขึ้น เนื่องจากในปัจจุบันสหรัฐฯ นำเข้าน้ำมันดิบจากแคนาดาถึงวันละ 4 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นปัจจัยที่หนุนให้สหรัฐฯ กลายเป็นผู้ส่งออกน้ำมันสุทธิในตลาดโลกสุทธิได้ ทั้งนี้เปเปอร์มองว่าโอกาสเกิดขึ้นจริงอาจเป็นไปได้ยาก เนื่องจากทรัมป์ชอบใช้วิธีนี้ในการบีบเพื่อให้ฝั่งตรงข้ามขึ้นสู่โต๊ะเจรจา ประกอบกับทรัมป์อยากให้ราคาพลังงานลดลง การขึ้นภาษีจึงไม่สมเหตุสมผล
- 5. “อัตราดอกเบี้ยบ้านของสหรัฐฯ เริ่มลดลง ตลาดบ้านสหรัฐฯ เริ่มกลับมาคึกคัก” Bloomberg รายงานว่าอัตราดอกเบี้ยระยะยาวสำหรับสินเชื่อบ้านสหรัฐฯ (อายุ 30 ปี) ปัจจุบับปรับลดลงมาเหลือ 6.81% แม้จะสูงกว่าเมื่อ 2 เดือนที่แล้วก็ตาม ผลจากการลดลงของอัตราดอกเบี้ยบ้านในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ตลาดซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ กลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาที่ยอดแตะสูงสุดในรอบ 7 เดือน ทั้งนี้ Realtor.com เว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์ชื่อดังของสหรัฐฯ ประเมินว่าอัตราดอกเบี้ยอาจโดนกดลงได้อีกในอาทิตย์แรกของธันวาคมนี้
|
|