1. “จีนไม่มีมาตรการใหม่ – หุ้นฮ่องกงร่วง, ธนาคารโลกเตือนเศรษฐกิจจีนชะลอตัวจะฉุดทั้งเอเชียตะวันออกลง” เมื่อวานนี้ในการแถลงของคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน ปรากฎว่าไม่มีมาตรการใหม่ใดๆ ทำให้ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงปิดปรับตัวลดลง -9.41% ไปอยู่ที่ 20,926.79 จุด ส่วนดัชนี CSI 300 ปิดปรับตัวในวันทำการแรกหลังเทศกาลวันชาติจีนเพียง +5.93% ไปอยู่ที่ 4,256.10 จุดเท่านั้น ทั้งนี้ธนาคารโลก (World Bank) ออกมาเตือนว่าหากเศรษฐกิจจีนชะลอตัว จะฉุดการเติบโตของภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกลงไปด้วย โดยปรับประมาณการ GDP ของจีนในปีนี้ลงเหลือ 4.8% และในปีหน้าลงเหลือ 4.4% 2. “ตลาดเมินสงครามตะวันออกกลาง หันเข้ากลุ่มเทค - ดันดัชนีหุ้นสหรัฐฯ อีกครั้ง” โดยดัชนี S&P 500 ของสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ 5,751.13 จุด เพิ่มขึ้น +0.97% ใกล้จุดทำสถิติสูงสุดตลอดกาลอีกครั้งหนึ่ง นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Nvidia ที่ปรับตัวขึ้นถึง +4.05% ในคืนเดียว ด้านกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมาเมื่อคืนปรับตัวลดลงพร้อมกับราคาน้ำมันที่ลดลง และหุ้นจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ก็ปรับตัวลดลงด้วยเช่นกัน 3. “ตราสารหนี้ภาครัฐของเกาหลีใต้และอินเดีย ถูกบรรจุเป็นส่วนหนึ่งของดัชนีตราสารหนี้ของ FTSE” เมื่อวานนี้ FTSE Russell บริษัทในเครือของตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ประกาศบรรจุตราสารหนี้ของเกาหลีใต้ เข้าเป็นส่วนหนึ่งของดัชนี FTSE World Government Bond Index (WGBI) โดยมีน้ำหนักอยู่ในดัชนีราว 2.22% ส่วนอินเดียจะเป็นส่วนหนึ่งของดัชนี FTSE Emerging Markets Government Bond Index (EMGBI) โดยมีน้ำหนักราว 9.35% การเพิ่มเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของดัชนีจะทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้าเป็นจำนวนมาก 4. “ประธาน FED สาขาแอตแลนตาระบุ การลดดอกเบี้ยต้องรักษาสมดุล” เมื่อคืนนี้ Raphael Bostic ประธาน FED สาขาแอตแลนตา ระบุว่าปัจจัยการลดดอกเบี้ยหลังจากนี้ เป็นการรักษาสมดุลระหว่างการจ้างงานและการควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับต่ำ โดยยังเปิดกว้างกับการลดดอกเบี้ยอีก 0.50% หากข้อมูลการจ้างงานออกมาเอื้อให้ลดดอกเบี้ยต่อ ด้าน Mohamed El-Erian อดีตซีอีโอของ PIMCO บริษัทจัดการกองทุนรวมตราสารหนี้รายใหญ่ ระบุว่าตลาดตอนนี้ต้องเดาใจธนาคารกลาง ทำให้ตราสารหนี้เกิดความผันผวนขึ้น 5. “นักลงทุนตราสารหนี้ภัยพิบัติเตรียมใจรับความเสียหาย หลังเฮอริเคนมิลตันเตรียมขึ้นฝั่งสหรัฐฯ” โดยพายุลูกดังกล่าวจะขึ้นฝั่งที่เมืองแทมปา รัฐฟลอริดา และมีความแรงที่ระดับ 5 ซึ่งคาดว่าจะสร้างความเสียหายอย่างมากกับเมือง และนักลงทุนที่ซื้อตราสารหนี้ภัยพิบัติ ซึ่งหากเกิดกรณีภัยพิบัติขึ้นกับทรัพย์สินที่อยู่ในตราสารหนี้ นักลงทุนจะรับความเสียหายในส่วนของเงินต้นทุกครั้งที่เกิดภัยพิบัติขึ้น คาดว่าจะอยู่ที่ราว 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์
|