XAM Daily Xpresso / 27 November 2024




XAM Shot

  • “ทรัมป์ลั่นกลองรบ ประกาศขึ้นภาษี 10% สินค้าจากจีน, 25% จากเม็กซิโกและแคนาดา - หุ้นสหรัฐฯ ยังขึ้นได้ต่อเนื่อง ทั้งจาก America First และการปรับเป้าของนักวิเคราะห์”

Things you need to know

  • 1. “ทรัมป์ประกาศจะขึ้นภาษีจากจีน เม็กซิโก และแคนาดา หลังรับตำแหน่งประธานาธิบดี - หุ้นขึ้นต่อ” โดยสินค้าที่มาจากจีนจะขึ้นภาษีอีก 10% และสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดาอีก 25% หลังการประกาศดังกล่าวทำให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ (DXY) แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 107.50 ดอลลาร์ ก่อนจะอ่อนตัวลงมาที่ 106.87 ดอลลาร์เมื่อเช้า ด้านค่าเงินเม็กซิกันเปโซ อ่อนค่าลงราว 0.20% และค่าเงินหยวนของจีนอ่อนค่าลงมากที่สุดในรอบ 4 เดือน ส่วนดัชนี S&P 500 ของสหรัฐฯ ขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เป็นครั้งที่ 52 ในรอบปีที่ 6,021.63 จุด +0.57%
  • 2. “ชาติสมาชิก OPEC+ หารือเลื่อนแผนเพิ่มกำลังการผลิตออกไปจากเดิมมกราคมนี้” สาเหตุสำคัญคือตัวเลขคาดการณ์ของสำนักงานพลังงานสากล (IEA: International Energy Agency) ที่เพิ่งออกมาเมื่อวานนี้ระบุว่าจะมีน้ำมันคงเหลือในตลาดกว่าวันละ 1 ล้านบาร์เรล เพราะกำลังการบริโภคจากจีนที่ลดลง ซึ่งหากเพิ่มกำลังการผลิตที่ 1.8 แสนบาร์เรลต่อวัน น้ำมันคงเหลือจะเพิ่มขึ้น อีกทั้งจากแผนของทรัมป์ที่จะส่งเสริมการขุดเจาะน้ำมัน ก็อาจทำให้ปริมาณน้ำมันดิบในตลาดโลกมีเหลือมากขึ้นไปอีก 
  • 3. “อิสราเอลบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มเฮซบัลเลาะห์นาน 60 วัน” การหยุดยิงดังกล่าวมาจากความพยายามในการเจรจาโดยมีสหรัฐฯ เป็นตัวกลางในการเจรจา ทั้งนี้ก่อนการประกาศดังกล่าวไม่กี่ชั่วโมงที่มีประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน เป็นผู้ประกาศข่าวด้วยตนเอง อิสราเอลได้ส่งกองกำลังทางอากาศบุกโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มเฮซบัลเลาะห์ในกรุงเบรุตของเลบานอนอย่างหนัก ด้านราคาน้ำมันร่วงลงรับข่าวนี้ โดยน้ำมันดิบตลาด WTI ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 69 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วน Brent ปรับตัวต่ำกว่า 73 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
  • 4. “Bank of America ปรับเป้าหมาย S&P 500 ปีหน้าแตะ 6,666 จุด” เป้าหมายที่ปรับขึ้นดังกล่าวเหตุผลหลักมาจากการเมืองที่หันไปทางทรัมป์ (America First), การลดดอกเบี้ยของ FED, การเพิ่มขึ้นของกำไร, ปรากฎการณ์ย้ายฐานการผลิต รวมถึงการใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีที่จะกระจายไปยังทุกอุตสาหกรรม ทำให้เกิดการขยายตัวของกำไรต่อหุ้น (EPS) ของดัชนีเป็นวงกว้างมากขึ้นด้วยที่ 275 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อหุ้น (Forward PER ที่ 24.24 เท่า) โดยมองว่ากลุ่มการเงิน อสังหาริมทรัพย์ สาธารณูปโภค วัสดุพื้นฐาน และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย จะได้รับประโยชน์ในปีหน้า
  • 5. “บันทึกการประชุม FOMC เผยคณะกรรมการจะลดดอกเบี้ยลงแบบค่อยเป็นค่อยไป” บันทึกการประชุม FOMC (คณะกรรมการนโยบายการเงิน) ของ FED ที่ปล่อยออกมากลางดึกเมื่อคืนนี้ ชี้ให้เห็นว่าคณะกรรมการจะพิจารณาลดดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่เงินเฟ้อ 2% และไม่กระทบกับเศรษฐกิจ โดยปัจจุบันเศรษฐกิจยังแข็งแกร่ง ขณะที่เงินเฟ้อมีสัญญาณลดช้าลงกว่าที่คาดไว้ และคณะกรรมการหลายคนเริ่มมองเห็นสัญญาณดังกล่าว

Daily Trend

  • "ตลาดอยู่ในสภาวะผันผวนหลังเลือกตั้ง” จากการประเมินของ GlobalData TS Lombard ยังคงให้น้ำหนักในหุ้นสหรัฐฯ เป็นหลักอยู่ในเวลานี้ เนื่องจากตามสถิติแล้วช่วงที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดี สินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับสหรัฐฯ ได้รับประโยชน์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่เหมือนกับสถิติในช่วงอื่นๆ ทั้งนี้สัปดาห์นี้ตลาดอาจจะเงียบเหงามากกว่าในช่วงสัปดาห์อื่น เนื่องจากตลาดทุนสหรัฐฯ เปิดทำการถึงแค่วันพุธก่อนที่จะหยุดในช่วงเทศกาลขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving) ซึ่งจะมีการติดตามตัวเลขยอดขายในช่วง Black Friday อีกครั้งหนึ่ง
  • “ปัจจัยที่ต้องติดตาม” ดัชนีค่าใช้จ่ายของผู้บริโภค (PCE และ Core PCE) เดือนตุลาคมของสหรัฐฯ ตลาดคาดอยู่ที่ 0.2% MoM/2.2% YoY สำหรับ PCE และ 0.3% MoM/2.7% YoY

XSpring AM