Things you need to know
- 1. “ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาปิดบวก หลังตัวเลขการจ้างงานออกมาไม่ดี ตลาดคาดลดดอกเบี้ย” 1. เมื่อคืนนี้ตลาดสหรัฐฯ โดยดัชนี S&P 500 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.51% ไปอยู่ที่ 6,448.26 จุด สาเหตุสำคัญคือตลาดตอบรับข่าวตัวเลขการจ้างงานที่ไม่ดีเป็นบวก โดยตัวเลข JOLTs Job Openings หรือตำแหน่งงานว่างเดือนกรกฎาคมออกมาที่ 7.181 ล้านตำแหน่ง ลดลงจากเดิมและต่ำกว่าคาดที่ 7.3 ล้านตำแหน่ง ตลาดจึงประเมินว่า FED ต้องลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายนนี้ ทำให้เกิดแรงซื้อ ด้านอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นไปแตะ 5% เพียงสั้นๆ ก่อนลดลง
- 2. “ราคาทองคำทำจุดสูงสุดใหม่ หลังทรัมป์โจมตี FED ต่อเนื่อง, J.P. Morgan มองยังขึ้นต่อ” ราคาทองคำล่าสุดวิ่งขึ้นแตะระดับ 3,559.26 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อเช้านี้ ทำจุดสูงสุดใหม่เหนือระดับ 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากทรัมป์โจมตี FED อย่างต่อเนื่อง จนตลาดกังวลความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกอบกับการลดอัตราดอกเบี้ยของ FED ในยามที่มีความเสี่ยงเงินเฟ้อขาขึ้น ทำให้การถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่น่าสนใจเท่ากับการถือทองคำ ด้าน J.P. Morgan ประเมินว่าราคาทองคำมีโอกาสแตะที่ระดับ 3,675 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในสิ้นปีนี้
- 3. “การเมืองไทยถึงจุดระอุ หลังสำนักงานองคมนตรีตีกลับร่าง พรฎ. ยุบสภา - นัดเลือกนายกคนใหม่พรุ่งนี้” หลังจากมีกระแสข่าวเย็นวันอังคาร ล่าสุดเมื่อวานนี้ สำนักงานองคมนตรีส่งกลับร่าง พรฎ. ยุบสภา คืนมายังสำนักนายกรัฐมนตรี หลังส่งเรื่องไปเมื่อวันอังคาร เนื่องจากปัญหาข้อขัดแย้งเรื่องอำนาจในการยุบสภา ทำให้การกราบบังคมทูลร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร ไม่เป็นไปตามระเบียบการนำเสนอเพื่อขอพระมหากรุณา ทำให้พรรคภูมิใจไทยแจ้งความเอาผิดกับนายภูมิธรรม เวชยชัย มาตรา 157 ด้านรัฐสภาเรียกประชุมในวันศุกร์นี้ เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ หลังพรรคประชาชนประกาศสนับสนุนภูมิใจไทยแบบมีเงื่อนไขให้ยุบสภาใน 4 เดือน
- 4. “HSBC ชี้กำไรตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังโตต่อ ปรับเป้าหมายขึ้นแตะ 6,500 จุดปีนี้” มุมมองดังกล่าวระบุว่ากำไรต่อหุ้น (EPS) ของดัชนียังคงดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มเทคโนโลยีและการเงิน นอกจากนั้นประเมินว่ากำแพงภาษีจะมีผลกระทบที่ไม่ได้รุนแรงจากท่าทีในการแถลงงบของบริษัทต่างๆ จึงปรับคาดการณ์ขึ้น อย่างไรก็ตามเป้าหมายของ HSBC นั้นมี upside หรือช่วงที่จะขึ้นไปแตะอีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
- 5. “รัฐบาลทรัมป์ยื่นฎีกาต่อศาลสูงสุดแล้ว หลังศาลอุทธรณ์ระบุไม่มีอำนาจ” การยื่นอุทธรณ์ดังกล่าวรัฐบาลระบุว่าหากยกเลิกกำแพงภาษีที่ใช้ตามกฎหมาย IEEPA แล้วจะกระทบกับอำนาจของประธานาธิบดีในความเป็นจริง ซึ่งทำให้การรักษาผลประโยชน์ของประเทศอาจเป็นไปได้ยากมาก ทั้งนี้ศาลอุทธรณ์ระบุว่าประธานาธิบดีไม่มีสิทธิในการขึ้นกำแพงภาษี โดยให้เป็นอำนาจของรัฐสภาในการขึ้นกำแพงภาษี ทั้งนี้สำนักข่าว CNBC ประเมินว่าคดีนี้อาจมีผลตัดสินจริงช่วงฤดูร้อนของสหรัฐฯ ในปีหน้า
|
|