Things you need to know
- 1. “รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ระบุ สงครามการค้าหลังจากนี้ขึ้นอยู่กับจีน” โดย Scott Bessent ระบุว่าหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ติดต่อกับจีนในทุกช่องทางอยู่แล้ว แต่ทั้งหมดขึ้นกับทางการจีนที่จะต้องเริ่มต้นการเจรจาเพื่อลดความตึงเครียดด้านกำแพงภาษี เนื่องจากจีนส่งออกมายังสหรัฐฯ สูงกว่าที่สหรัฐฯ ส่งออกไปจีนถึง 5 เท่า ดังนั้นการมีกำแพงภาษีที่ 125% ในระยะยาวไม่เป็นผลดีอย่างแน่นอน นอกจากนั้นแล้วเขายังเปิดเผยว่าปัจจุบันสหรัฐฯ อยู่ระหว่างการหารือกับ 15-17 ประเทศคู่ค้าเพื่อสร้างข้อตกลงทางการค้าเพิ่มเติมด้วย
- 2. “ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ตลาดหันกลับมาโฟกัสเรื่องผลประกอบการ” เมื่อคืนนี้ดัชนี S&P 500 ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 0.06% มาอยู่ที่ 5,528.75 จุด โดย Bloomberg ระบุว่ากระแสการซื้อหุ้นเมื่อปรับตัวลง (buy on dip) ยังคงมีอยู่ ทำให้ดัชนีสามารถยืนอยู่ในระดับเป็นบวกได้ในช่วงปิดตลาด แม้ระหว่างวันจะลงไปต่ำกว่าระดับปิดตลาดก็ตาม ทั้งนี้ตลาดหันกลับมาโฟกัสกับผลประกอบการของบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทขนาดใหญ่อย่าง Alphabet, Tesla, Nvidia ที่จะทยอยรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกออกมาในสัปดาห์นี้
- 3. “สเปน-โปรตุเกส กระแสไฟฟ้าดับทั้งประเทศ กระทบกับเศรษฐกิจ” โดยเริ่มดับตั้งแต่ช่วงเที่ยงวัน และปัจจุบันยังไม่สามารถหาสาเหตุที่แน่นอนได้สำหรับการดับของกระแสไฟฟ้าในครั้งนี้ ซึ่งทางการของสหภาพยุโรปเข้าสอบสวนในเรื่องดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้ระบบไฟฟ้าโดยปกติแล้วจะต้องทำงานด้วยความถี่ (frequency) ที่มีเสถียรภาพเพื่อการจ่ายไฟที่ต่อเนื่อง หากความถี่กระแสไฟฟ้าไม่สม่ำเสมอจะทำให้การจ่ายไฟมีปัญหา นำไปสู่กระแสไฟฟ้าดับได้ ซึ่งหลายฝ่ายประเมินว่ากรณีที่เกิดขึ้นทั้งสองประเทศมาจากเรื่องดังกล่าว
- 4. “รัสเซียประกาศหยุดยิงชั่วคราว 3 วัน ด้านทำเนียบขาวไม่พอใจ” การประกาศหยุดยิงสั้นๆ ครั้งนี้รัสเซียระบุว่าเป็นการฉลองครบรอบ 80 ปีของชัยชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 และเปิดเผยว่าพร้อมเจรจรากับยูเครนในการหาสันติภาพร่วมกัน ด้านทำเนียบขาวออกมาแสดงความไม่พอใจถึงการหยุดยิงดังกล่าว และต้องการสันติภาพที่ถาวร โดยช่วงที่ผ่านมารัสเซียปฏิเสธข้อเสนอต่างๆ ของสหรัฐฯ มาโดยตลอด ด้าน Marco Rubio รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ชี้ว่าสถานการณ์ในการเจรจายังไม่แน่นอน
- 5. “Sony กำลังพิจารณาแยกหน่วยธุรกิจผลิตชิปออกมาเป็นบริษัทต่างหาก” สาเหตุสำคัญคือหน่วยธุรกิจผลิตชิปที่ใช้ในเทคโนโลยีการถ่ายภาพนั้นกำไรจากการดำเนินงานเริ่มลดลงจาก 25% เหลือเพียงราว 10% ในช่วงปีหลังๆ ขณะที่กลุ่มธุรกิจบันเทิงกลับมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 37% ในส่วนของเกม และ 28% ในส่วนของเพลงในไตรมาสล่าสุด ทำให้ธุรกิจผลิตชิปลดบทบาทลงไป ทั้งนี้หากเกิดขึ้นจริงบริษัทใหม่จะมี Sony ถือหุ้นส่วนน้อย และที่เหลือจะถูกถือหุ้นโดยผู้ถือหุ้นอื่นๆ ของบริษัท Sony
|
|