XAM Daily Xpresso / 25 September 2024




XAM Shot

  • “จีนอัดฉีดมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ แต่นักเศรษฐศาสตร์มองว่าช้าไปและไม่พอ – Goldman Sachs ปรับเป้า S&P 500 ปีหน้าแตะ 6,000 จุด”

Things you need to know

  • 1. “ตลาดยังเชื่อใน Soft-landing ดันหุ้นสหรัฐฯ ทำจุดสูงสุดใหม่” เมื่อคืนนี้ดัชนี S&P 500 ปิดทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งหนึ่งที่ 5,732.93 จุด ปรับตัวขึ้น +0.25% นำโดย Nvidia ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยตลาดยังคงเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเป็น soft-landing แม้ตัวเลขผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะลดลงถึง 6.9 หน่วย ลดลงแรงที่สุดในรอบ 3 ปี มาอยู่ที่ 98.7 หน่วย ส่วนตัวเลขด้านแรงงาน (Labor Differential - วัดจากผลสำรวจว่างานหายากหรือง่ายมาลบกัน) หดลงมาแคบที่สุดเหลือ 12.6% และเป็นขาลงถึง 8 เดือน ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่วิกฤติเศรษฐกิจปี 2008 ทำให้นักเศณษฐศาสตร์บางส่วนเริ่มกังวลถึงปัญหาเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้น
  • 2. “กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยื่นศาลฟ้อง Visa ข้อหาผูกขาดตลาดบัตรเดบิต” การยื่นฟ้องดังกล่าวมาจากผลการสอบสวนที่พบว่า Visa มีข้อตกลงที่ลงโทษร้านค้าที่รับบัตรเครดิตของเจ้าอื่น (เช่น Mastercard, American Express) และยอมจ่ายเงินเพื่อให้คู่แข่งตัวเองไม่เข้ามาแข่งขันในตลาดนี้ ซึ่ง Visa ยึดครองตลาดนี้ในสหรัฐฯ มากถึง 60% รวมทั้งยังมีข้อตกลงกับ PayPal และ Apple เพื่อไม่ให้ทำผลิตภัณฑ์มาแข่งระบบจ่ายเงินของ Visa ด้วย อันเป็นการกระทำที่ผูกขาดตลาด
  • 3. “ธนาคารกลางของจีนประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดันตลาดหุ้นจีนพุ่ง แต่นักวิเคราะห์มองยังไม่พอ” โดยมาตรการดังกล่าวมีทั้งการปรับลดเงินสำรองเงินฝากของธนาคารจีนที่ต้องส่งเข้าธนาคารกลาง ปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้น และผ่อนปรนข้อจำกัดสินเชื่อบ้าน ทำให้ดัชนี CSI 300 พุ่งขึ้นเมื่อวานนี้ +4.33% และนักลงทุนต่างเก็งกำไรผ่านตราสารอนุพันธ์เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์จาก GlobalData TS Lombard ระบุในงานสัมมนาเมื่อคืนว่า มาตราการต่างๆ ยังไม่มากพอ มาช้าเกินไป และเศรษฐกิจจีนอาจชะลอตัวอีกเกือบทศวรรษ
  • 4. “Goldman Sachs ปรับเป้า S&P 500 อีก 12 เดือนจากนี้ จบที่ 6,000 จุด” โดย David Kostin นักกลยุทธ์การลงทุนของบริษัท ระบุกับ Bloomberg ว่าเป้าของดัชนี S&P 500 อีก 12 เดือนจากนี้ คาดว่าจะจบที่ 6,000 จุด คิดเป็นอีก 5% ทั้งนี้ Kostin ระบุว่าดัชนี S&P 500 จะเผชิญความผันผวนจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ช่วงเดือนพฤศจิกายนก่อน และอาจทำให้ดัชนีปรับตัวลดลงได้ในระยะสั้น 
  • 5. “ตลาดตราสารหนี้เริ่มเก็งกำไรอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ คาด FED ลดดอกเบี้ยพฤศจิกายนนี้อีก 0.50%” หลังจากตัวเลขความเชื่อมั่นของผู้บริโภคออกมาไม่ดี นักลงทุนในตลาดตราสารหนี้เริ่มมีการเก็งกำไรโดยมองว่า FED หรือธนาคารกลางของสหรัฐฯ จะลดดอกเบี้ยลงอีก 0.50% หรือ 50 bps ในการประชุมวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ และสิ้นปีนี้ที่ 0.25% หรือ 25 bps ทั้งหมดรวมกันมากกว่าประมาณการของ FED ที่ 0.50% ในอีก 2 ครั้งที่เหลือของปีนี้ โดยการเก็งกำไรเกิดขึ้นที่พันธบัตรระยะสั้นอายุ 2 ปีมากที่สุด

Daily Trend

  • "ตลาดยังมองบวก - คาดเศรษฐกิจ Soft Landing” หลังการลดดอกเบี้ย 50 bps ของ FED ทำให้นักวิเคราะห์หลายค่ายมองว่าสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเป็น soft-landing เอื้อประโยชน์ให้กับการเติบโตของสหรัฐฯ ในลำดับถัดไป ทำให้บรรยากาศในตลาดคลายความกังวล ตามมาด้วยการลงทุนในกลุ่มที่ยังมีการเจริญเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคบริการ ทั้งนี้ตลาดยังคงประเมินอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในภาพรวมว่ายังเป็นบวก แม้ในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์จะเริ่มไม่ปรับตัวขึ้นแล้วก็ตาม
  • “ปัจจัยที่ต้องติดตาม” ตัวเลขยอดขายบ้านใหม่เดือนสิงหาคมของสหรัฐฯ ตลาดคาดที่ 7 แสนหลัง จากกรกฎาคมที่ 7.39 แสนหลัง ลดลง -5.1% MoM, ตัวเลขอัตราดอกเบี้ยสำหรับกู้ยืมระยะกลางของจีน ตลาดคาดลดลงเหลือ 2.0% จากปัจจุบัน 2.3%

XSpring AM