1. “ตัวเลขตำแหน่งงานว่างของสหรัฐฯ ลดลงต่ำสุดตั้งแต่ปี 2021 – ยอดเลิกจ้างพุ่งแตะ 1.762 ล้านตำแหน่ง” เมื่อคืนนี้ตัวเลขจากสำนักงานสถิติแรงงานของสหรัฐฯ เผยให้เห็นสัญญาณอ่อนแรงในตลาดแรงงานอีกครั้ง โดยตำแหน่งงานว่าง (JOLTs Job Opening) ลดลงอยู่ที่ 7.67 ล้านตำแหน่ง (ตลาดคาด 8.1 ล้านตำแหน่ง) ด้านตัวเลขการเลิกจ้างพุ่งแตะที่ระดับ 1.762 ล้านตำแหน่ง กดดันให้นักลงทุนแห่ลงทุนในตราสารหนี้เพิ่มขึ้น อัตราดอกเบี้ยในตลาดปรับตัวลดลงอีก โดยอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง -7 bps (0.07%) มาอยู่ที่ 3.757% เมื่อเช้านี้ ด้านอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลงมา 0.09% อยู่ที่ 3.7660%
2. “ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวในกรอบแคบ รอตัวเลขจ้างงานศุกร์นี้ – GS เตือน ถ้าตัวเลขต่ำกว่านี้ตลาดอาจปรับฐาน” โดยดัชนี S&P 500 เมื่อคืนปรับตัวลดลงแคบๆ ที่ -0.16% ไปอยู่ที่ 5,520.17 จุด และ Dow Jones ปรับขึ้นที่ +0.09% ไปอยู่ที่ 40,974.97 จุด สำนักข่าว Bloomberg ระบุว่าตลาดกำลังรอตัวเลขการว่างงานวันศุกร์นี้ ด้าน Goldman Sachs เตือนว่าหากตัวเลขการจ้างงานออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาดอีกวันศุกร์นี้ ตลาดหุ้นอาจเกิดการปรับฐานครั้งใหม่ได้ และอาจมีโอกาสเกิดการปรับฐานตั้งแต่ 13 กันยายน ยาวไปจนถึงจนช่วงเลือกตั้ง
3. “ค่าเงินเยนแข็งค่าอีก 1% หลังผู้ว่า BOJ บอกจะขึ้นดอกเบี้ยอีก ถ้าเศรษฐกิจยังร้อนแรง” ท่าทีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากผู้ว่าธนาคารญี่ปุ่นถูกเรียกไปให้การเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยเป็นเอกสาร ซึ่งระบุว่าธนาคารกลางพร้อมขึ้นดอกเบี้ยต่อ ประกอบกับค่าเงินเยนมักถูกตลาดประเมินว่าเป็น Safe Heaven หรือหลุมหลบภัยในกรณีที่ทรัพย์สินเสี่ยงต่างๆ ปรับตัวลดลง
4. “BofA, J.P.Morgan และ Goldman Sachs ออกเปเปอร์ลดระดับการลงทุนในจีน มองเศรษฐกิจไม่โต” ไม่ปล่อยให้ UBS เหงาคนเดียว เมื่อ Bank of America, J.P. Morgan และ Goldman Sachs ประสานเสียงพร้อมกันลดระดับการลงทุนในจีน-มองว่าเศรษฐกิจไม่โต โดย GS และ BofA ระบุว่าเศรษฐกิจจีนปีนี้จะไม่โตแตะระดับ 5% ตามที่รัฐบาลจีนคาดหวัง ด้าน J.P. Morgan ลดระดับความน่าลงทุนในหุ้นจีนเป็น Neutral (กลาง) จาก Overweight (ให้น้ำหนักมากกว่าปกติ) เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งสหรัฐฯ
5. “รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมขวางดีล Nippon Steel เข้าซื้อกิจการ U.S. Steel มูลค่ากว่า 1.41 หมื่นล้านดอลลาร์” โดย Bloomberg รายงานว่าประธานาธิบดีไบเดนพร้อมขวางการซื้อกิจการ ดีลดังกล่าวได้รับการต่อต้านจากคนงานที่เป็นฐานเสียงเลือกตั้งของทั้งพรรคเดโมแครตและรีพลับลิกัน ซึ่งทั้ง Harris และ Trump ต่างมีจุดยืนตรงกันว่าจะขวางดีลนี้ด้วยเช่นกัน ด้านราคาหุ้นของ U.S. Steel ร่วงลง -17% และบริษัทเตือนว่า ถ้าดีลไม่สำเร็จ อาจเลิกจ้างคนและต้องเลิกการผลิตบางส่วน รวมถึงย้ายสำนักงานใหญ่ด้วย
|