XAM Daily Xpresso / 13 November 2024

• “ตลาดยังผันผวน ประเมินอัตราดอกเบี้ยอาจยืนสูงได้อีก เกิดแรงเทขายกดดัน - ผลสำรวจผู้จัดการกองทุนระบุชัด อเมริกามาแรง ส่วนไทยและอินโดนีเซียรั้งท้ายสำหรับฝั่งเอเชีย”

• 1. “ตลาดมองอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับขึ้นได้อีก - เทขายตราสารหนี้เพิ่มเติม” สำนักข่าว Bloomberg รายงานข้อมูลสถิติในตลาดซื้อขายล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ พบว่าตลาดกำลังคาดว่าดอกเบี้ยอาจปรับตัวขึ้นยืนสูง โดยมีการเปิดสถานะขาย (short) พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มเติม ทำให้เกิดแรงเทขายพันธบัตรสหรัฐฯ ออกมา ด้านดัชนี Bloomberg US Treasury Total Return Unhedged USD ลดต่ำลงมาก จนเหลือกำไรจากต้นปีเพียง 1.4% เท่านั้น (ปัจจุบันอยู่ที่ 2,292.83 จุด)
• 2. “ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง” เมื่อคืนนี้ดัชนี ICE U.S. Dollar หรือ DXY ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 106.02 ดอลลาร์ แตะระดับแข็งค่าสูงสุดใกล้เคียงกับช่วงปลายพฤศจิกายน 2022 สาเหตุสำคัญมาจากค่าเงินเยนและดอลลาร์แคนาดาอ่อนค่าลงอย่างมากจนถึงระดับจิตวิทยาของตลาด ประกอบกับการที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งทำให้ตลาดคาดว่าเศรษฐกิจอเมริกันจะกลับมาแข็งค่าอีกครั้ง ทำให้ตอนนี้ธนาคารหลายเจ้า เช่น Deutsche Bank, Barclays, Nomura, ING ประเมินว่า โอกาสที่ดอลลาร์และยูโรจะเสมอกัน (parity: 1 ยูโร = 1 ดอลลาร์) มีสูงขึ้นมาก
• 3. “ราคาน้ำมันร่วงลงอีก หลัง OPEC ประเมินความต้องการน้ำมันปีนี้และปีหน้าจะลดลงอีก” โดยมองว่าปีนี้การใช้น้ำมันจะเติบโตเพียง 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ต่ำกว่า 2% อยู่เล็กน้อย และปีหน้า (2025) ที่ 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน นับเป็นการลดประมาณการณ์ลงเป็นครั้งที่ 4 นับตั้งแต่ครึ่งปีหลังเป็นต้นมา สาเหตุสำคัญมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ด้านราคาน้ำมันดิบในตลาด WTI งวดส่งมอบธันวาคมปีนี้ ปรับตัวลดลงแตะ 68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลงอีก -0.18%
• 4. “ผลสำรวจผู้จัดการกองทุนเผย ผู้จัดการกองทุนเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในสหรัฐฯ สูงสุดในรอบ 11 ปี - ด้านเอเชียไทยกับอินโดนีเซียรั้งท้าย” เมื่อวานนี้ Bank of America เผยผลการสำรวจผู้จัดการกองทุนทั่วโลกรอบเดือนพฤศจิกายน พบว่าผู้จัดการกองทุนกว่า 29% กลับมาให้น้ำหนักการลงทุนมากกว่าตลาด (overweight) สำหรับตลาดสหรัฐฯ สูงสุดในรอบ 11 ปี ด้านผู้จัดการกองทุนฝั่งเอเชียยังให้น้ำหนักการลงทุนมากกว่าตลาดสำหรับญี่ปุ่นที่ 45% โดยมีไทยและอินโดนีเซียรั้งท้าย ให้น้ำหนักต่ำกว่าตลาดที่ -13%
• 5. “หุ้นตลาดเกิดใหม่ทำจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน – หุ้นสหรัฐฯ รอความชัดเจนเงินเฟ้อคืนนี้” ดัชนี MSCI Emerging Market ทำจุดต่ำสุดแตะระดับ 1,102.50 จุด นับเป็นจุดต่ำสุดครั้งใหม่หากนับตั้งแต่เดือนกันยายน หลังตลาดกังวลว่ารัฐมนตรีของทรัมป์ที่จะเข้ามาทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ร้าวฉานเพิ่มขึ้น ด้านดัชนี S&P 500 ของสหรัฐฯ เมื่อคืนปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อยที่ -0.29% ไปอยู่ที่ 5,983.99 จุด รอความชัดเจนจากตัวเลขเงินเฟ้อที่จะประกาศคืนนี้

• "ทรัมป์กลับมา จะทำให้ตลาดกำลังพัฒนาได้รับผลกระทบ” ในช่วงที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีระหว่างปี 2016-2020 ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งละตินอเมริกา เป็นไปในทางลบ การกลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้งของทรัมป์ในครั้งนี้ จะส่งผลกระทบและแรงสั่นสะเทือนให้กลับตลาดประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม BRICS ที่ถูกมองว่ามีความใกล้ชิดกับจีนและรัสเซีย โดยสะท้อนจากค่าเงินของประเทศกำลังพัฒนาที่อ่อนค่าฉับพลันหลังจากการเลือกตั้ง และส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก โดยหลังจากนี้เราคาดว่าสหรัฐฯ จะเป็นตลาดที่มีบทบาทอย่างมากตามประธานาธิบดีคนใหม่
• “ปัจจัยที่ต้องติดตาม” ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือนตุลาคม ตลาดคาด 0.2% MoM/2.6% YoY สำหรับเงินเฟ้อทั่วไป และ 0.3% MoM/3.3% YoY สำหรับเงินเฟ้อที่แท้จริง

XSpring AM