XAM Daily Xpress / 20 ธันวาคม 2024




XAM Shot

  • “สภาล่างของสหรัฐฯ คว่ำมติร่างงบประมาณขยยายเพดานหนี้ เสี่ยงรัฐบาลกลางต้องหยุดทำงาน - เส้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ เริ่มชันขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2022”

Things you need to know

  • 1. “สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณขยายเพดานหนี้ - เสี่ยงรัฐบาลหยุดทำงาน” การลงมติดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเช้านี้โดยคะแนนเสียง 235 ต่อ 174 เสียง ทำให้ร่างงบประมาณดังกล่าวที่จะขยายเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ ออกไปสองปี รวมกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และได้รับการสนับสนุนจากว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ผ่านสภาและเป็นอันตกไป ทำให้ตอนนี้เหลือเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงเท่านั้นก่อนที่รัฐบาลสหรัฐฯ จะหยุดทำงาน (shutdown) ซึ่งอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้
  • 2. “อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ตัวยาวเริ่มปรับสูงขึ้น” เมื่อคืนนี้ตลาดตราสารหนี้สหรัฐฯ มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญ โดยเส้นอัตราดอกเบี้ย (interest rate curve) กลับมาชันขึ้น (steepen) ตั้งแต่ปี 2022 หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณลดดดอกเบี้ยช้าลง ทำให้อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรอายุ 2 ปีในตลาดอยู่ที่ 4.31% ส่วนอัตราดอกเบี้ยอายุ 10 ปีอยู่ที่ 4.59% แตกต่างกันถึง 28 bps โดยประมาณ ทั้งนี้ตลาดยังกังวลเรื่องรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่ รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่มีโอกาสอยู่ยาวนานมากขึ้น
  • 3. “อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านของจีน ปรับตัวเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 ปี” ข้อมูลดังกล่าวมาจากการสำรวจและรวบรวมโดย Data Motion International Trading บริษัทด้านข้อมูลในสิงคโปร์ที่พบว่าอัตราดอกเบี้ยบ้านของจีนใน 42 เมืองใหญ่ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 3.05% มาเป็น 3.08% ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่ง Chanson & Co. วาณิชธนกิจของจีนคาดว่าการปรับดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นทั้งที่เศรษฐกิจและยอดขายบ้านยังมีปัญหา เกิดจากธนาคารจีนกำลังอยู่ในสภาวะที่ต้องเพิ่มผลกำไร หลังรายได้จากดอกเบี้ยหดตัวลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
  • 4. “ค่าเงินวอนของเกาหลีอาจเจอความผันผวน หลังอ่อนลงจนกองทุนบำนาญแห่งชาติอาจต้องขายเงินตราต่างประเทศออกมา” สำนักข่าว Bloomberg ชี้ว่าค่าเงินวอนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะนี้อ่อนกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 20 ปีราว 1,450 วอนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นระดับที่คาดว่ากองทุนบำนาญแห่งชาติของเกาหลีจะต้องขายเงินตราต่างประเทศออกมา ทั้งนี้หากค่าเงินวอนอ่อนเกินกว่าระดับดังกล่าวนานเกิน 5 วัน กองทุนจะเริ่มทำการขายเพื่อบริหารความเสี่ยง (hedge) จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ซึ่งคำนวณแล้วอาจต้องใช้เงินรวมกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
  • 5. “ธนาคารกลางอังกฤษและญี่ปุ่นคงดอกเบี้ยตามคาด” เมื่อวานนี้ธนาคารกลางของญี่ปุ่น (BOJ) และธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้เท่าเดิม โดยในกรณีของญี่ปุ่นที่ยังคงไว้ 0.25% ยังรอข้อมูลเพิ่มเติมว่าเงินเฟ้อหลังจากนี้ รวมถึงค่าแรงที่ต้องรอช่วงเจรจา (shunto) ด้วยว่าจะเป็นอย่างไร ทั้งนี้เมื่อเช้าตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปของญี่ปุ่นอยู่ที่ 2.7% YoY และเงินเฟ้อที่แท้จริงอยู่ที่ 2.4% YoY ในเดือนพฤศจิกายน มากกว่าคาด ส่วนอังกฤษระบุว่าสถานการณ์ยังไม่แน่นอนที่จะลดดอกเบี้ยในตอนนี้

Daily Trend

  • "ตลาดตอบรับการลดดอกเบี้ยในแง่ลบ หลังประเมินปี 2025 ลดต่ำกว่าคาด” หลังจาก FED ประกาศลดดอกเบี้ยโดยประเมินว่าปีหน้าอัตราดอกเบี้ยจะลดช้าลงเหลือ 2 ครั้งเนื่องจากเงินเฟ้อลงช้ากว่าที่คาดไว้ ทำให้ตลาดตอบรับในทางลบ โดย TS Lombard ประเมินดอกเบี้ยสหรัฐฯ จะอยู่ในระดับ 4.00% ในปีหน้า ทำให้เส้นทางการลดดอกเบี้ยหลังจากนี้อาจไม่ได้ลึกแบบที่ประเมินไว้ตอนแรก ตามมาด้วยการขายสินทรัพย์ทั้งหุ้นและตราสารหนี้ ทั้งนี้ผลกระทบจากการขายทรัพย์สินเหล่านี้เป็นเพียงผลกระทบในระยะสั้นเท่านั้น และจะต้องติดตามปัจจัยเงินเฟ้อในช่วงถัดไปว่าจะลงได้มากน้อยเพียงใด ทั้งนี้หากยังลงได้ช้าโอกาสที่ดอกเบี้ยจะยืนสูงนานก็เพิ่มขึ้นด้วย
  • “ปัจจัยที่ต้องติดตาม” ตัวเลขค้าปลีกของอังกฤษ ตลาดประเมินที่ 0.5% MoM/1.9% YoY, ตัวเลข Core PCE ของสหรัฐฯ ที่ 0.3% MoM/2.9% YoY และตัวเลขรายรับรายจ่ายของประชาชนของสหรัฐฯ ทั้งหมดสำหรับเดือนพฤศจิกายน
XSpring AM