XAM Daily Xpresso / 26 มิถุนายน 2025

• “ดัชนี NASDAQ 100 ทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาล หลัง NVIDIA ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุด - NATO แถลงปรับเพิ่มงบประมาณความมั่นคงของประเทศสมาชิกร่วมกันแตะ 5% ของ GDP”
  

• 1. “ดัชนี NASDAQ 100 ทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาล หลัง NVIDIA ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุด” เมื่อคืนนี้ราคาหุ้นของ NVIDIA ปรับตัวขึ้น 4.3% แตะระดับ 154.31 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากความเชื่อมั่นในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ดีต่อเนื่อง ทำให้หุ้นของบริษัทกลายเป็นหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยมูลค่าตลาดรวม 3.77 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และผลักดันดัชนี NASDAQ 100 แตะจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 22,329 จุด ระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย ก่อนปิดตลาดจะลดลงมาเล็กน้อยที่ 22,237.74 จุด เพิ่มขึ้น 0.21% ส่วนดัชนี S&P 500 ปิดตลาดแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวานนี้ที่ 6,092.16 จุด
• 2. “NATO แถลงปรับเพิ่มงบประมาณความมั่นคงของประเทศสมาชิกร่วมกันแตะ 5% ของ GDP” ท่าทีดังกล่าวมาจากการผลักดันของทรัมป์ที่ต้องการให้ชาติในสนธิสัญญา NATO ใช้จ่ายด้านงบประมาณความมั่นคงเพิ่มขึ้น โดยแบ่งเป็น 3.5% สำหรับการใช้จ่ายที่จำเป็นด้านความมั่นคง และอีก 1.5% สำหรับการลงทุนที่เกี่ยวเนื่อง โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานและการป้องกันภัยทางไซเบอร์ ด้านราคาของ VanEck Defense UCITS ETF ในตลาดลอนดอนเมื่อคืนปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.61% ไปอยู่ที่ 54.86 ดอลลาร์
• 3. “HKMA แทรกแซงค่าเงินอีกครั้ง หลังอ่อนค่ามากเกินไป” การแทรกแซงดังกล่าว HKMA กลับเข้ามาซื้อสกุลเงินท้องถิ่น (HKD) และขายดอลลาร์สหรัฐฯ ออกไป หลังจากค่าเงิน HKD อยู่ในระดับที่อ่อนค่าในกรอบ 7.85 HKD/USD หลังการแทรกแซงช่วงต้นเดือนพฤษภาคม และนับเป็นการแทรกแซงค่าเงินหลังจากอ่อนค่ามากเกินไปในรอบ 2 ปี นับตั้งแต่ปี 2023 โดยปัจจุบัน HKMA ดูแลสภาพคล่องของ HKD ในตลาดกว่า 1.64 แสนล้านฮ่องกงดอลลาร์ และคาดว่าการอ่อนค่านี้จะมีผลกระทบกับอัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคาร (HIBOR) ที่คาดว่าจะสูงขึ้น
• 4. “Micron ออกประมาณการรายได้บริษัทดีขึ้น บ่งชี้กลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ฟื้นตัว” สาเหตุสำคัญมาจากการผลิตหน่วยความจำที่รองรับปริมาณการรับส่งข้อมูลที่สูง (HBM) ที่นิยมใช้กับชิปประมวลผลด้าน AI ทำให้บริษัทคาดว่ารายได้ในไตรมาส 4 ตามปีบัญชีของบริษัทจะอยู่ที่ 1.07 หมื่นล้านดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 9.89 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็นกำไรต่อหุ้นที่ 2.50 ดอลลาร์ นอกจากนั้นบริษัทพยายามขยายตลาดเพิ่มขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นปีราคาหุ้นของบริษัทฟื้นตัวขึ้นมาถึง 51% 
• 5. “Macquarie ปิดดีลซื้อหุ้น 3 สนามบินในอังกฤษ” การซื้อสนามบินดังกล่าว Macquarie ใช้เงินลงทุนจากกองทุน Macquarie European Infrastructure Fund 7 ในการซื้อหุ้นสนามบินของอังกฤษ ประกอบไปด้วยสนามบินของ Bristol (55%), Birmingham (26.5%) และ London City Airport (25%) จากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพครูของเมืองออนทาริโอ แคนาดา โดยกองทุน Macquarie European Infrastructure Fund 7 เปิดมาตั้งแต่ปี 2004 และปัจจุบันมีมูลค่ารวมกว่า 2.4 หมื่นล้านยูโร

• “ตลาดกลับมาโฟกัสกับสงครามการค้า” หลังความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและอิสราเอลจบลงชั่วคราว ตลาดหันกลับมาให้ความสนใจกับประเด็นของสงครามการค้าที่ช่วงเวลาการเลื่อนบังคับใช้กำลังจะหมดลงในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ หลายฝ่ายประเมินว่าข้อตกลงทางการค้าที่ยังไม่มีการสรุปออกมานอกจากอังกฤษ อาจทำให้ทรัมป์ต้องเลือกเลื่อนการบังคับใช้ออกไปอีกอย่างน้อยก็จนถึงภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากหากบังคับใช้จริงอาจส่งผลกับสถานการณ์ห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) ของสหรัฐฯ ซึ่งบริษัทต่างๆ ยังมีเวลาไม่มากพอสำหรับการเตรียมตัว ทั้งนี้หากเกิดการบังคับใช้กำแพงภาษีจริง ภูมิภาคที่โดนเก็บน้อยอย่างละตินอเมริกา หรือ ออสเตรเลีย จะเป็นภูมิภาคอันดับต้นๆ ที่ได้ประโยชน์
• “ปัจจัยที่ต้องติดตาม” ตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (Durable Goods Orders) คาด 5.2% MoM, GDP สหรัฐฯ ไตรมาสแรกครั้งสุดท้าย คาด -0.2% QoQ, ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานรายใหม่ ตลาดคาด 2.47 แสนราย

XSpring AM