XAM Daily Xpresso/ 1 November 2024




XAM Shot

  • “หุ้นสหรัฐฯ ปิดจบเดือนตุลาคมแทบไม่เปลี่ยนแปลง หลังมีแรงเทขายเพราะงบผิดคาด – ตลาดยังผันผวนหนัก รอความชัดเจนประธานาธิบดีสหรัฐฯ”

Things you need to know

1. “ยอดขาย Apple ในจีนร่วงต่อเนื่อง, Intel และ Amazon ดีกว่าคาด” เมื่อคืนนี้มีการประกาศงบของ Apple, Intel และ Amazon โดยในส่วนของ Apple ยอดขายรายไตรมาสจากจีนลดลงเหลือ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่ตลาดคาด (1.58 หมื่นล้าน) ราคาหุ้นร่วง -1.86% นอกเวลาทำการปกติ, Intel ให้คาดการณ์รายได้ไตรมาส 4 มากกว่าที่ตลาดคาดที่ 1.33-1.43 หมื่นล้านดอลลาร์ (ตลาดคาดที่ 1.36 หมื่นล้าน) กำไรสุทธิต่อหุ้นที่ 12 เซนต์ มากกว่าที่ตลาดคาด 50% ราคาหุ้นนอกเวลาทำการปกติ พุ่งขึ้นถึง +6.92% และ Amazon รายงานงบไตรมาส 3 ดีกว่าคาด เพิ่มขึ้นถึง 11% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว มากกว่าที่ตลาดคาด ราคาหุ้นนอกเวลาทำการพุ่งขึ้นราว +5%
2. “ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ยังถูกเทขายต่อเนื่อง จากความผันผวนและงบของบริษัทที่ออกมาไม่ดี” โดยดัชนี S&P 500 ปรับตัวลดลง -1.86% มาอยู่ที่ 5,705.45 จุด ปิดเดือนตุลาคมไปแบบไม่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงต้นเดือน หลังจากมีแรงเทขายในหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เนื่องจากตลาดผิดหวังในงบของบริษัทที่ออกมา ไม่ว่าจะเป็นทั้ง Microsoft และ Meta รวมไปถึงความผันผวนจากโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และเงินเฟ้อ Core PCE ที่มากกว่าคาด
3. “ค่าเงินเยนปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบเดือน ส่วนค่าเงินเอเชียยังอ่อนค่าจากตลาดที่คาดว่าทรัมป์จะได้เป็นประธานาธิบดี” โดยค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 152.07 ต่อดอลลาร์ หลังจากที่ผู้ว่าการ BOJ แถลงเมื่อวานนี้ว่าพร้อมขึ้นดอกเบี้ยหากสถานการณ์จำเป็น ด้านค่าเงินอื่นๆ ในเอเชียยังอ่อนค่าต่อเนื่องจากการที่ตลาดคาดว่าทรัมป์จะเป็นประธานาธิบดี ทำให้เกิดการถือครองดอลลาร์มากขึ้น อย่างไรก็ตาม Barclays มองว่าปริมาณเงินสำรองระหว่างประเทศของธนาคารกลางในเอเชียยังสูง และน่าจะรับมือกับความผัวผวนได้
4. “ผลตอบแทนตราสารหนี้ในจีนไม่สดใส หลังจากตลาดหุ้นดูดีกว่า” โดยตราสารหนี้ของจีนเกิดแรงเทขายออกมาเพื่อเข้าสู่ตลาดหุ้น ทำให้สองสินทรัพย์เกิดการสวนทางกันมากที่สุดในรอบ 4 ปี Bloomberg ระบุว่ามีเงินออกไปจากตราสารหนี้ราว 1.05 ล้านล้านหยวนภายในสองอาทิตย์แรกของเดือนตุลาคม ส่วนความผันผวนในรอบ 30 วันของดัชนีเซี่ยงไฮ้สูงที่สุดในรอบ 8 ปี และมูลค่าซื้อขายอยู่ที่ราว 1.9 ล้านล้านหยวนต่อวันในสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
5. “KKR เริ่มเรียกระดมทุนครั้งใหม่อีกครั้ง หลังมองตลาด Private Equity จะคึกคักอีกรอบ” Bloomberg รายงานว่า KKR บริษัทบริหารสินทรัพย์ที่เชี่ยวชาญด้าน Private Equity เริ่มเรียกระดมทุนครั้งใหม่กว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับกองทุนใหม่ที่จะลงทุนในอเมริกาเหนือ หลังจากที่ไม่ได้เรียกระดมทุนกว่า 2 ปี โดยมองว่าตลาด Private Equity กำลังจะกลับมาคึกคักอีกครั้งหลัง FED เริ่มลดดอกเบี้ยลง

Daily Trend

  • "การเลือกตั้งสหรัฐฯ จะทำให้ตลาดผันผวน” จากข้อมูลในอดีตพบว่าปีที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดี หุ้นสหรัฐฯ จะทำผลงานได้ดี แม้จะมีความผันผวนในระยะสั้นก็ตาม ทั้งนี้หากการเลือกตั้งได้ทรัมป์เป็นประธานาธิบดี อาจสร้างแรงกดดันต่อเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา (Emerging Markets) ซึ่งอาจตามมาด้วยผลลบในการลงทุนสำหรับตลาดเหล่านี้ได้ ซึ่งในตอนนี้แนวโน้มของตลาดประเมินว่าทรัมป์มีโอกาสได้สูงกว่าแฮร์ริส และหลายที่เริ่มมีการปรับคำแนะนำด้านการลงทุนแล้ว
  • “ปัจจัยที่ต้องติดตาม” Caixin Manufacturing PMI ของจีน ตลาดคาด 49.7 หน่วย, US Non-farm Payrolls ตลาดคาด 1.8 แสนตำแหน่ง, อัตราการว่างงานสหรัฐฯ ตลาดคาด 4.2% สำหรับเดือนตุลาคม, ISM Manufacturing PMI ตลาดคาด 47.5 หน่วย ดีขึ้นเล็กน้อย

XSpring AM