XAM Daily / 26 Dec 2023


ภาพรวมตลาด

  • ตลาดปิดทำการวันคริสต์มาส ตลาดอื่นบวกอ่อน (+) ส่วนหุ้นจีน H-Shares ยังปรับตัวลง (-)

แนวโน้มตลาดวันนี้

  • หุ้นเอเชียเกือบทุกตลาดเปิดลบอ่อนๆ (-) แนะนำรอสะสมหุ้นญี่ปุ่นที่ราคา Nikkei 225 32,000 จุด XSpring AM มองญี่ปุ่นและอินเดียยังมีลมหนุนด้าน Fund-Inflow จาก Global Investor (+) ด้าน Futures สหรัฐเปิดบวก โดย Russell 2000 บวกแรง ในขณะที่ Dow Jones เปิดลบ (+)(ณ เวลา 9.15) XSpring AM ยังมองเห็น Style Rotation ในหุ้นสหรัฐคาดจะยังมีแรงขาย Magnificent-7 ตราบเท่าที่เงินเฟ้อลงแต่เศรษฐกิจยังดี ไปเข้ากลุ่มวัฏจักรและหุ้นขนาดกลางเล็กแถว 3 (Laggards-Play) เช่น ARKG (TMB-ES-GENOME)(+) มองกองทุนหุ้น Small-Cap อย่าง SCBUSSM ยังเป็น Laggards Play สำหรับ Q1 2024 เช่นกัน (+)
  • นอกจาก US กลุ่มหุ้น Global Property & Infra, EU Growth, EU Small-Cap และ German Stock ยังเป็นกลุ่มที่น่าสนใจ (+)
  • XSpring AM แนะนำนักลงทุนเพิ่มการลงทุนในส่วนของ Private Credits สำหรับนักลงทุนรายใหญ่พิเศษ (UI) (+)

Daily Focus

  • อัตราว่างงานญี่ปุ่นเดือนพ.ย.ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 2.5% ตามคาด ด้านสัดส่วนตำแหน่งงานว่างต่อผู้สมัครงานอยู่ที่ 1.28 ในเดือนพ.ย. (ต.ค. 1.30) ซึ่งก็คือมีตำแหน่งงาน 128 ตำแหน่งต่อจำนวนผู้หางาน 100 คน XSpring AM มองเห็นสมดุลทางเศรษฐกิจญี่ปุ่นมากขึ้น เงินเฟ้อปรับตัวลงแต่ยังคงตัวในโซนสูง ตลาดแรงงานยังแข็งแรง ซึ่งทำให้แบงค์ชาติญี่ปุ่น BOJ สามารถทำ Policy Normalization ได้ (ปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นเป็นบวก) ทั้งนี้ XSpring AM มองว่าหุ้นญี่ปุ่นในปี 2024 จะเริ่มหมดโมเมนตัมเชิงบวกจากนโยบายการเงินที่เสริมส่งมากกว่าสหรัฐและยุโรปแล้ว (สิ่งที่ทำให้หุ้นญี่ปุ่นขึ้นมาดีในช่วงกลางปี 2023) รวมถึงทิศทางค่าเงินเยนที่น่าจะแข็งค่าเทียบดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ถ้าหุ้นจะขึ้น จะต้องขึ้นจาก Earning Growth (Fundamental) เป็นหลัก โดยคาดว่า Expected Upside ในอนาคตจะลดลงกว่าผลตอบแทนปี 2023 และคาดว่าหุ้นขนาดกลางเล็กน่าจะเติบโตดีกว่าหุ้นใหญ่ในปี 2024 (+) 
  • ประเด็นข่าวร่างมาตรการใหม่จากทางการจีน เพื่อควบคุมการใช้จ่ายในการซื้อเกมออนไลน์และคอนเทนต์ในเกม ถือเป็นการส่งสัญญาณควบคุมอุตสาหกรรมเกม ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทผลิตและจำหน่ายเกมจีนปรับตัวลงอย่างหนัก (-) XSpring AM เชื่อมั่นในความสามารถในการแข่งขันของประเทศจีนในระยะยาว (+) แต่มองว่าปัญหาเศรษฐกิจจากที่เคยคาดการณ์ว่าจะเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้นในปี 2023 มองว่าจีนต้องใช้เวลาปรับโครงสร้างภาคอสังหาซึ่งจะส่งผลต่อทั้งธุรกิจแบงค์และทั้ง Supply Chain ยาวไปอีกอย่างน้อย 3-5 ปี รวมถึงคาดการณ์ว่าบนการนำของ ปธน. สีจิ้นผิง ไม่ได้เน้นสนับสนุนตลาดทุนมากเท่าการกระจายรายได้ ทำให้คาดการณ์ว่ากรณีเดียวที่หุ้นจีนจะกลับมาดีมากๆ จะต้องเกิดจากสามปัจจัยสนับสนุนทั้ง 1. โครงสร้างเศรษฐกิจจีนถูกปรับสมดุลและแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างในภาคอสังหาอย่างชัดเจน 2. นโยบายที่ออกมาต่อเนื่องและทำให้นักลงทุนกลับมาเชื่อว่าจีนยังโปรตลาดทุน 3. การที่เศรษฐกิจจีน,โมเมนตั้มหุ้นจีน และนโยบายการเงินจีนสนับสนุนหุ้น ในขณะที่สถานการณ์ในประเทศใหญ่ประเทศอื่นๆในเวลานั้น ทั้งสหรัฐ, ยุโรป และญี่ปุ่นดูแย่ลงโดยเปรียบเทียบ หรือราคาขึ้นไปจน Valuation แพงมากและเริ่มเผชิญแรงเทขาย Rotate กลับมายังหุ้น Extremely Laggards อย่างหุ้นจีน ซึ่ง XSpring AM คาดว่าอย่างเร็วที่จะเกิดช่วงเวลาดังกล่าวอาจจะต้องเป็นปี 2025-2026 ไปแล้ว 
  • อิสราเอลเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมกว่า 8,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีงบประมาณ 2024 เนื่องจากการทำสงครามกับกลุ่มฮามาสยังไม่มีแนวโน้มที่จะบรรเทาลง (-) XSpring AM คาดการณ์ว่าสถานการณ์ 2 เดือนที่ผ่านมาเป็นการพักระดับความรุนแรงชั่วคราว แต่หากสงครามกลับมาคุกกรุ่น ย่อมส่งผลกระทบต่อโมเมนตัมตลาดหุ้นโลก รวมถึงกระทบ Supply-Side ฝั่งน้ำมัน (-) ซึ่งการ Hedge หรือป้องกันความเสี่ยงจากสงครามที่มีโอกาสยกระดับความรุนแรงในอนาคตคือการแบ่งสัดส่วนลงทุนในกองทุนกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ (+) อาทิเช่น KT-ENERGY (หากราคาน้ำมันดิบ WTI กลับไปซื้อขายที่กรอบราคา 80-90$) รวมถึง KT-PRECIOUS ซึ่งราคาเคลื่อนไหวสัมพันธ์กับทองคำแต่ขึ้น/ลงมากกว่า (High Beta) 
  • ข้อมูลจากกว่า 8 โบรคใหญ่ในไทยให้ Target Price SET Index ในปี 2024 ที่กรอบ 1,470-1,717 ซึ่งหากมองแบบ Conservative แปลว่ามีโอกาสมากที่หุ้นไทยจะขึ้นได้จากระดับราคาในปัจจุบันอีกอย่างน้อย 5-7% ขึ้นไป (+) ปัจจัยบวกได้แก่ ดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง (+) ทำให้เม็ดเงินจะไหลเข้าตลาดหุ้นกลุ่ม Emerging Market (+) ประเด็นดิจิทัลวอลเล็ตก็มีความชัดเจนมากขึ้น (+) ส่วนปัจจัยเสี่ยงคือช่วง Q1 ปี 2024 จะมีหุ้นกู้ครบกำหนดจำนวนมาก ต้องติดตามว่าหุ้นกู้เหล่านี้จะ Rollover ได้หรือไม่ (-) คาดว่าจะมีผลต่อสภาพคล่องในระบบที่ลดลงในช่วง Q1 2024 (-) แต่คาดว่าถ้าผ่านช่วง Q2 2024 คาดว่าสถานการณ์จะดีขึ้นมาก (+) 

กลยุทธ์การลงทุน

  • Slightly Overweight Global Energy 
  • Slightly Overweight Global Property (Interest Rates Sensitive Theme) 
  • Slightly Overweight German & EU Alpha Stock (Laggards & Low Valuation Play) 
  • Slightly Overweight India & South Korea Stock
  • Slightly Overweight Japan Value Stock
  • Slightly Overweight Laggards Thematic ETF เช่น ARKG ETF
  • Slightly Overweight หุ้นสหรัฐ Small-Cap Blended มีโอกาสฟื้นตัว
  • Slightly Overweight หุ้นไทย Mid-Small Cap Stock มีโอกาสสำหรับกองทุนที่เลือกหุ้น Super Stock มองกองไทย Healthcare มองว่ายังเป็นภาคส่วนที่เป็น Growth Engine สำคัญของไทย

คำแนะนำ

  • KT-ENERGY กองทุนหุ้นพลังงาน
  • KKP-GINFRAEQ-H กองทุนหุ้นโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก และ K-GPROP-A(A) กองทุนอสังหาทั่วโลก
  • K-EUROPE กองทุนหุ้นยุโรป, SCBEUSM หุ้นขนาดกลางเล็กยุโรป, TMBGER หุ้นเยอรมัน
  • KT-INDIA, SCBKEQTG อินเดีย & เกาหลีใต้
  • ASP-NGF, TMBJPNAE หุ้นญี่ปุ่น
  • SCBUSSM, ABAGS หุ้นขนาดกลางเล็กสหรัฐ Blended Character
  • TMB-ES-GENOME ตอน ARKG ETF <33$
  • SCBPGF หุ้นโลก Value, UGD หุ้นกลางเล็ก Durable
  • ASP-SME, ABSM, ASP-T12, M-MIDSMALL, TLMSEQ เป็นกองหุ้นไทย Alpha , ONE-HOSPITAL

XSpring AM

Source: Bloomberg, Reuter