XAM Daily / 27 Sep 2023


ภาพรวมตลาด

Risk-Off (Fear & Greed Index จาก 38 ไป 27)

แนวโน้มตลาดวันนี้

  • แนวโน้มตลาดหุ้นเอเชียคาดวันนี้แกว่งตัวในโซนลบตาม Global Sentiment Risk-Off โดยดัชนีหุ้นออสเตรเลียเปิดลบ -0.2% ด้านดัชนี TOPIX เปิดลบที่ -0.66% และ NIKKEI 225 -0.79% (9.06 เวลาไทย)
  • คาดแบงค์ชาติไทยคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.25% มองว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังกดดันความน่าสนใจของตราสารหนี้ไทย รวมถึงทิศทางบาทที่ยังอ่อนค่า ทำให้ยังขาดปัจจัยดึงดูด Fund-Inflow ต่างชาติในระยะสั้น 
  • ฟิวเจอร์สตลาดหุ้นสหรัฐอยู่ในทิศทางบวก (ตอน 9.06 ตามเวลาไทย) มองเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนสายสวน (Contrarian) โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้น Small-Cap Growth Stock มองปัจจัยยีลด์เร่งตัว, Government Shut-down จะยังกดดันบรรยากาศการลงทุนในหุ้นสหรัฐและหุ้นทั่วโลกในระยะสั้น รอจับตา GDP สหรัฐและถ้อยแถลงของคุณ เจอโรม พาวเวล คืนวันพรุ่งนี้ หากไม่ได้ Hawkish เพิ่มเติมจากสัปดาห์ที่แล้วตลาดมีโอกาสบวกสลับฟื้นตัวบ้าง

Daily Focus

  • ปัจจัยหลักที่กดดันให้ตลาดหุ้นสหรัฐ ยังเป็นแรงกดดันจากเรื่อง Higher-For-Longer สถานการณ์ที่เกิดขึ้นคือยีลด์พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังปรับตัวสูงขึ้น ยังมีแรงเทขายออกจากหุ้น โดย 2 ใน 7 ของ Fear & Greed Index โดย CNN พบว่า Market Momentum เริ่มเสียทรง หลัง S&P 500 หลุดเส้นค่าเฉลี่ย 125 วัน ด้าน Market Breadth ไม่ดีเพราะหุ้นส่วนใหญ่ในตลาดยังปรับตัวลง มีสัดส่วนหุ้นที่น้อยมากที่ยังปรับตัวขึ้นได้ เพราะฉะนั้นบรรยากาศการลงทุนยังถูกปกคลุมโดย Catalyst เชิงลบ (-)
  • คุณ เจมี ไดมอน CEO JP Morgan มองว่าอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5% และเพิ่มขึ้นไป 6% หรือสูงกว่านั้น จะส่งผลต่อเศรษฐกิจอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งจะต่างจากสถานการณ์ช่วงที่ดอกเบี้ยเพิ่มจาก 0% ไป 2% หรือ 3% ไป 5% ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้ต้องรอให้ตลาดย่อยข่าวและปรับตัวกับฐานความคาดหวังดอกเบี้ยในโซนสูงมากในระยะต่อไป (-) 
  • Amazon ซึ่งเป็น Top US Stock ปรับตัวลงกว่า -4% จากปัจจัยเฉพาะตัว เรื่องพฤติกรรมกีดกันคู่แข่ง กดดันเซ็นติเมนต์ US Large-Cap Growth เพิ่มขึ้น (-)
  • ในขณะที่ยอดขายบ้านใหม่และความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐลดลงมากกว่าคาด ซึ่งเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง แต่ยังแข็งแกร่ง คาดว่าจะดีกับ US-Growth Stock ยามตลาด Risk-On (+) 
  • ยีลด์พันธบัตรรัฐบาลเยอรมันเร่งตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ภาพเดียวกับฝั่งสหรัฐ กดดันหุ้น EU Growth Stock เช่นเดียวกับฝั่งสหรัฐ ส่วนหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยอย่างกลุ่ม Luxury Brand ยุโรปปรับตัวลงกว่า -20% นับตั้งแต่เดือน พ.ค. ซึ่งกลุ่มนี้ปรับตัวลงตั้งแต่เศรษฐกิจจีนเริ่มแย่กว่าความคาดหวัง (-)
  • Dollar Index แข็งค่าขึ้น +0.22% แตะที่ 106.23 จากความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจสหรัฐและส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยโดยเปรียบเทียบกับประเทศใหญ่ประเทศอื่นๆ ซึ่งการที่ดอลลาร์แข็งค่า ยิ่งกดดันผลตอบแทนสินทรัพย์ลงทุน โดยเฉพาะหุ้นและตราสารหนี้ในภูมิภาคตลาดเกิดใหม่ (-)
  • สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดว่าการลดกำลังการผลิตของซาอุและรัสเซียไปจนถึงสิ้นปี จะทำให้ราคาน้ำมันดิบคงตัวในโซนสูงที่ระดับ 80-95$ ไปจนถึงสิ้นปี 2023 (-)
  • สิงคโปร์เป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุดในภาคอสังหาริมทรัพย์ญี่ปุ่นในปี 2023 นี้ ทั้งปัจจัยสนับสนุนจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่า และความต้องการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และโรงแรม (+)
  • Alibaba จะแตกธุรกิจออกเป็น 6 บริษัท (Spin-Off) โดยไช่เหนี่ยวซึ่งทำโลจิสติกส์จะเป็นธุรกิจแรกที่ยื่นขอทำ IPO ในสัปดาห์นี้ ซึ่งหากตลาด Risk-On คาดว่า Upside ระยะสั้นหุ้น Alibaba จะเยอะ จากการบันทึกกำไรจากบริษัทลูก (+) 
  • ยีลด์พันธบัตรสหรัฐที่สูงขึ้นต่อเนื่องรวมถึงดอลลาร์แข็งค่า กดดันหุ้นไทยหลุดราคาสำคัญทางจิตวิทยาที่ระดับ 1,500 โดยพบแรงขายจากหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มแบงก์ สื่อสาร และโรงไฟฟ้า มองว่ายังขาดปัจจัยบวกใหม่ๆ ทำให้ตอนนี้หุ้นไทยซึ่งไม่ได้ Valuation ถูกในระยะสั้นและยังขาด Catalyst เชิงบวก ถูกต่างชาติขายมากกว่าตลาดเกิดใหม่หลายประเทศ (-) แต่มองว่านโยบายลดค่าครองชีพและนโยบายกระตุ้นการบริโภค จะกลับมาดีกับหุ้นขนาดกลางเล็กในระยะกลาง (+)
  • มูราตะ แมนูแฟคเจอริ่ง ซัพพลายเออร์ตัวเก็บประจุ (MultiLayer Ceramic Capacitors) ของ Apple สร้างโรงงานในลำพูน ซึ่งเห็นแนวโน้มการลงทุนทางตรงในไทยที่เพิ่มขึ้น ผลจากการกระจายความเสี่ยงออกจากจีน (+) 
  • หุ้นเวียดนามราคาปรับตัวลงรายวันในเปอร์เซ็นต์ที่เยอะ รวมถึงด้วยความที่หุ้นเวียดนามยังเป็น Frontier Market (-) ทำให้จะหาข่าวล่วงหน้ายาก มองว่าหากชอบหุ้นเวียดนามให้รอซื้อยามตลาดปรับตัวลงแรงและไม่ลงทุนกระจุกตัวเกินไป

กลยุทธ์การลงทุน

  • Overweight หุ้นไทย Mid-Small Cap Stock มีโอกาสสำหรับกองทุนที่เลือกหุ้น Super Stock ที่มีโอกาสการเติบโตที่ดีในระยะสั้นและระยะกลาง
  • Overweight หุ้นเอเชียมากกว่ากลุ่มประเทศพัฒนาแล้วสำหรับการลงทุนในระยะกลาง ดอลลาร์อ่อนสนับสนุนหุ้น Growth ภูมิภาคตลาดเกิดใหม่ (EM)
  • Overweight หุ้นอินเดียเห็นแนวโน้มราคาปรับตัวขึ้นได้ดี
  • Overweight หุ้นสหรัฐ Small Cap Growth มีโอกาสฟื้นตัว
  • Slightly Overweight หุ้น Semiconductor ทยอยสะสมลงทุน
  • Slightly Overweight หุ้น Large-Cap Growth สหรัฐมีโอกาสสะสมลงทุนในระยะกลาง หลังราคาปรับตัวลงมาในช่วงก่อนหน้านี้

คำแนะนำ

  • KFHASIA, M-EM Asia/EM Tech
  • ASP-NGF, TMBJPNAE หุ้นญี่ปุ่น
  • TMBINDAE, SCBKEQTG อินเดีย & เกาหลีใต้
  • SCBPGF หุ้นโลก Value, UGD หุ้นกลางเล็ก Durable
  • K-GHEALTH หุ้น Healthcare, ONE-HOSPITAL หุ้นไทยและหุ้นโลก Healthcare
  • ABAGS หุ้นขนาดกลางเล็กสหรัฐ Blended Character
  • ASP-SME, ABSM, ASP-T12, M-MIDSMALL, TLMSEQ เป็นกองหุ้นไทย Alpha
  • SCBUSAA รับ 4.6 บาท, KF-US รับ 11.2 บาท, SCBROBOA รับ 13.4 บาท
  • เก็งกำไร M-META ที่ราคา METV ETF 9.3-9.5$ , TMB-ES-GINNO ที่ราคา ARKK ETF 38-40$ และ LHSEMI ที่ราคา SOXX ETF 450-470$

XSpring AM

Source: Bloomberg, Reuter