XAM Daily Xpresso / 30 เมษายน 2025




XAM Shot

  • “ตลาดผ่อนคลายความกังวลอีกครั้งหนึ่ง หลังทรัมป์มีท่าทีอ่อนลงกับสงครามการค้า - ญี่ปุ่นกังวลสงครามการค้าผลักชาติในเอเชียเข้าหาจีนมากขึ้นกว่าเดิม ไม่เป็นผลดีกับสหรัฐฯ และญี่ปุ่น”

Things you need to know

  • 1. “หุ้นสหรัฐฯ กลับมาบวกอีกครั้ง หลังท่าทีของทรัมป์เริ่มอ่อนลง” เมื่อคืนนี้ดัชนี S&P 500 ของสหรัฐฯ ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น +0.58% ไปยืนที่ระดับ 5,560.83 จุด หลังจากท่าทีของทรัมป์เรื่องกำแพงภาษีในช่วง 2-3 วันมานี้เริ่มอ่อนลง รวมถึงการลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารที่ทำให้ภาษีนำเข้ารถยนต์ที่เดิมมีความเสี่ยงจะโดนภาษีเก็บซ้ำซ้อนจากกฎภาษีต่างๆ ลดลงเหลือกลายเป็นภาษีชั้นเดียวที่ 25% รวมถึงผู้นำเข้าสามารถขอรับส่วนลดทางภาษีได้ 3.75% ในปีแรก และ 2.5% ในปีต่อมาได้ ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ที่นำเข้ารถยนต์และส่วนประกอบลดความกดดันด้านกำไรลงบางส่วน และตลาดประเมินการปรับท่าทีของทรัมป์ในเชิงบวก รวมถึงเชื่อว่าบริษัทในอเมริกายังสามารถทำกำไรได้ดี แม้บางส่วนจะมีงบที่น่าผิดหวังบ้าง
  • 2. “Novo Nordisk จับมือกับบริษัทรักษาคนไข้ทางไกล เสนอยา Wegovy ในราคาถูก” โดยบริษัทเลือกจับมือกับบริษัทให้การรักษากับผู้ป่วยทางไกล (telehealth) เช่น Hims & Hers Health ขายยา Wegovy (Semaglutide) ในราคาถูก โดยราคา 1 เดือนอยู่ที่ 499 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 16,700 บาท) ลงลงจากราคาปกติถึง 63% ทำให้ยากของบริษัทเข้าถึงได้มากขึ้น และเป็นการเดินเกมเดียวกับ Eli Lilly คู่แข่งของตนเองที่จับมือกับผู้ให้บริการอีกค่ายให้บริการยาลดน้ำหนักของตนเองในราคาที่ถูกลง
  • 3. “ทรัมป์ระบุ จีนต้องรับภาระจากกำแพงภาษี” มุมมองดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างที่ทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ ABC ของสหรัฐฯ โดยระบุว่าจีนเอาเปรียบสหรัฐฯ กว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี และสมควรแล้วที่จะได้กำแพงภาษีสูงที่สุดเมื่อเทียบกับทุกประเทศทั่วโลก รวมถึงชี้ว่ากำแพงภาษีมีส่วนในการกระตุ้นภาคการผลิตให้กลับมาอยู่ในสหรัฐฯ ด้านรัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ ประเมินว่าจีนมีโอกาสที่จะมีผู้ตกงานมาถึง 10 ล้านคน
  • 4. “ญี่ปุ่นแสดงความกังวล กำแพงภาษีทรัมป์ทำให้ชาติในเอเชียใกล้ชิดจีนมากขึ้น” Itsunori Onodera หัวหน้าเจ้าหน้าที่นโยบายของพรรคเสรีนิยมประชาธิปไตยที่เป็นพรรครัฐบาลญี่ปุ่น กล่าวถึงมุมมองดังกล่าวระหว่างการปาฐกถาที่สหรัฐฯ โดยกังวลว่าการที่สหรัฐฯ เลือกที่จะเก็บภาษีจากประเทศในเอเชียสูง ทำให้ชาติเหล่านี้เลือกขยับนโยบายเข้าใกล้จีนมากขึ้น และจะไม่เป็นผลดีกับสหรัฐฯ รวมถึงญี่ปุ่น และย้ำว่าสหรัฐฯ และญี่ปุ่นจะต้องทำงานร่วมกันโดยเฉพาะในมิติความมั่นคงเพื่อจำกัดอำนาจของจีน ซึ่งรูปแบบหนึ่งที่เป็นไปได้คือผลิตอาวุธร่วมกัน
  • 5. “ทรัมป์กดดัน Powell ลดดอกเบี้ยอีกครั้ง” ท่าทีครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างการรณรงค์ฉลองครบรอบ 100 วันในตำแหน่งประธานาธิบดีที่เมืองดีทรอยท์ รัฐมิชิแกน ทรัมป์ระบุว่าเงินเฟ้อตอนนี้ปรับตัวลดลงแล้ว แต่ FED ยังไม่ยอมปรับลดดอกเบี้ยลง และวิจารณ์ว่า Powell ซึ่งในการรณรงค์ระบุว่าเป็น “Fed person” ทำงานได้ไม่ดีพอ ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาทรัมป์พยายามกดดันการทำงานของ Powell มาตลอด และทำให้ตลาดโดยเฉพาะในฝั่งตราสารหนี้เกิดความผันผวนอย่างหนัก

Daily Trend

  • “ตลาดหันความสนใจชั่วคราว” ในสัปดาห์นี้จะมีการประกาศผลประกอบการของบริษัทออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม Magnificent 7 ซึ่งตลาดประเมินว่าผลกระทบจากสงครามการค้าอาจยังไม่เห็นในตอนนี้ ประกอบกับประมาณการของตลาดที่ยังมองรายได้เติบโตอยู่ ทำให้ตลาดติดตามการประกาศผลประกอบการในไตรมาสแรกและแนวโน้มไตรมาสสองอย่างมาก อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นเรื่องชั่วคราวเท่านั้น เนื่องจากสัปดาห์นี้จะมีการประกาศตัวอย่าง Core PCE รวมถึง Non-farm Payroll และอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ ทำให้บรรยากาศยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และการลงทุนไม่อยู่ในสภาพที่ง่ายเหมือนช่วงที่ผ่านมา โดยความเสี่ยง Stagflation ยังคงมีอยู่อย่างชัดเจน และหากตัวเลขจ้างงานออกมาไม่ดี อาจบ่งชี้เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงของสหรัฐฯ
  • “ปัจจัยที่ต้องติดตาม” ตัวเลขเศรษฐกิจของจีน โดย NBS Manufacturing PMI ตลาดคาด 50 หน่วย, Caixin Manufacturing PMI ตลาดคาด 49.8 หน่วย, NBS Service PMI ตลาดคาด 50.5 หน่วย, GDP ไตรมาสแรกและเงินเฟ้อเมษายนของประเทศต่างๆ ในยุโรป, Core PCE สหรัฐฯ เดือนมีนาคมคาด 0.1% MoM/2.5% YoY รายได้ 0.5% MoM, ค่าใช้จ่าย 0.4% MoM