XAM Daily Xpresso / 15 November 2024

• “Reuters รายงานทรัมป์เตรียมยกเลิกภาษี EV พาหุ้นกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าร่วง – Meta ถูกสั่งปรับจากยุโรปเกือบ 8 ร้อยล้านยูโร เตรียมยื่นอุทธรณ์แล้ว”

• 1. “Reuters รายงานทรัมป์เตรียมยกเลิกมาตราการอุดหนุนภาษี 7.5 พันดอลลาร์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า” รายงานข่าวดังกล่าวระบุว่าคณะทำงานของทรัมป์กำลังพิจารณายกเลิกการอุดหนุนนี้ ซึ่งจะต้องผ่านการลงมติของสภา โดยตัวแทนของบริษัท Tesla เอง สนับสนุนการยกเลิกมาตราการดังกล่าวด้วย ทำให้ราคาหุ้นของกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าร่วงลงหนักเมื่อคืนนี้ โดย Tesla โดนไป -5.8% ส่วน Rivian ผู้ผลิตอีกเจ้า -14% ด้าน Elon Musk ระบุว่าบริษัทอยู่ในสถานะที่ดีกว่าเจ้าอื่นหากรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดถัดไปยกเลิกการอุดหนุนภาษีรถยนต์ไฟฟ้า
• 2. “Powell ส่งสัญญาณ ไม่รีบลดดอกเบี้ย” เมื่อคืนนี้ Jerome Powell มีปาฐกถา ซึ่งหลายๆ คนจับตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าทีของการลดดอกเบี้ย ซึ่งเขาระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อยู่ในสภาวะที่ดี และมีโอกาสที่จะลดดอกเบี้ยได้เพิ่มเติมอีก อย่างไรก็ตาม Powell ส่งสัญญาณว่าการลดดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป และการคุมเงินเฟ้อให้ลงไปในระดับเป้าหมายที่ 2% ต่อปี เป็นเรื่องที่อาจมีอุปสรรคอยู่บ้างในระยะสั้น ทั้งหมดขึ้นอยู่กับข้อมูลทางเศรษฐกิจที่จะออกมาในอนาคต
• 3. “หุ้นสหรัฐฯ ร่วงหลังมีแรงเทขาย – ผู้เชี่ยวชาญเตือนช่องว่างระหว่างสหรัฐฯ และยุโรป จะกว้างขึ้น” เมื่อคืนนี้ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ S&P 500 ปรับตัวลดลงอีก -0.61% มาอยู่ที่ 5,949.17 จุด โดยเกิดจากแรงเทขายทำกำไร และหุ้นกลุ่มบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าร่วงลงถ้วนหน้า ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าต่อเนื่อง ด้าน Mohammed El-Erian ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐศาสตร์และอดีตซีอีโอของ PIMCO ออกมาเตือนว่าช่องว่างทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และยุโรป จะกว้างขึ้น และกระทบกับค่าเงินยูโรและหนี้สินของยุโรป
• 4. “Meta ถูกสั่งปรับกว่า 7.98 ร้อยล้านยูโร หลังเพิ่มคุณสมบัติตลาดสินค้าลงใน Facebook” คณะกรรมาธิการยุโรป สั่งปรับเงินจำนวนดังกล่าวจากการที่บริษัท เพิ่มคุณสมบัติซื้อขายสินค้าเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ Facebook และมีคำสั่งให้ Meta ยุติกิจกรรมดังกล่าว เพื่อไม่ให้แพลตฟอร์มซื้อขายสินค้ามือสองรายอื่นที่เป็นลูกค้าฝั่งโฆษณาได้รับผลระทบ ด้านบริษัทระบุว่าไม่ได้ใช้ข้อมูลจากเว็บไซต์คู่แข่งในการสร้างความได้เปรียบ และจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินนี้ต่อไปตามกลไกของสหภาพยุโรป
• 5. “หุ้นดิสนีย์พุ่ง หลังตัวเลขกำไรไตรมาสล่าสุด และคาดการณ์รายได้ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด” โดยในไตรมาสล่าสุด (บริษัทปิดงบไตรมาส 4 สิ้นเดือนตุลาคม) กำไรสุทธิอยู่ที่ 1.14 ดอลลาร์ต่อหุ้น (คาด 1.10 ดอลลาร์) และคาดการณ์รายได้ของบริษัทในปีบัญชีหน้าอยู่ที่ตัวเลขหลักเดียวปลาย ซึ่งมากกว่าคาดของตลาดที่ 4% และในปี 2026 กับ 2027 รายได้จะโตขึ้นเป็นเลขสองหลัก ส่วนหนึ่งมาจากมาตราการเปลี่ยนแปลงของ Bob Iger ซีอีโอคนปัจจุบัน และรายได้จากหนังของบริษัทดีขึ้น ทำให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นทันที 12% ก่อนปิดตลาดลดลงเหลือ 6% อยู่ที่ 109.13 ดอลลาร์

• "ทรัมป์กลับมา จะทำให้ตลาดกำลังพัฒนาได้รับผลกระทบ” ในช่วงที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีระหว่างปี 2016-2020 ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งละตินอเมริกา เป็นไปในทางลบ การกลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้งของทรัมป์ในครั้งนี้ จะส่งผลกระทบและแรงสั่นสะเทือนให้กลับตลาดประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม BRICS ที่ถูกมองว่ามีความใกล้ชิดกับจีนและรัสเซีย โดยสะท้อนจากค่าเงินของประเทศกำลังพัฒนาที่อ่อนค่าฉับพลันหลังจากการเลือกตั้ง และส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก โดยหลังจากนี้เราคาดว่าสหรัฐฯ จะเป็นตลาดที่มีบทบาทอย่างมากตามประธานาธิบดีคนใหม่
• “ปัจจัยที่ต้องติดตาม” ตัวเลขภาคการผลิตของจีนเดือนตุลาคมที่ 5.5% YoY และตัวเลขยอดขายค้าปลีกของจีนเดือนตุลาคมที่ 4.0% YoY, ค้าปลีกสหรัฐฯ ที่ 0.3% MoM/1.9% YoY

XSpring AM