XAM Daily / 7 Dec 2023




ภาพรวมตลาด

  • หุ้นสหรัฐมีการขายทำกำไร โดย VIX Index ยังน้อยกว่า <13 

แนวโน้มตลาดวันนี้

  • หุ้นออสเตรเลีย ญี่ปุ่น จีนเปิดลบ (-) ญี่ปุ่นและอินเดียยังมีลมหนุนด้าน Fund-Inflow จาก Global Investor (+) ด้าน Futures สหรัฐเปิดลบ (-) ยกเว้น Russell 2000 (ณ เวลา 9.35) XSpring AM ยังมองเห็น Style Rotation ในหุ้นสหรัฐคาดจะยังมีแรงขาย Magnificent-7 ตราบเท่าที่เงินเฟ้อลงแต่เศรษฐกิจยังดีไปเข้ากลุ่มวัฏจักรและหุ้นขนาดกลางเล็ก Laggards-Play (+) 
  • แนะนำ Go With The Flow โค้งสุดท้ายหุ้น Mid/Small Growth สหรัฐ ซึ่งขึ้นมาช้ากว่าในช่วงที่ผ่านมา มองว่ากองทุนหลัก SCBUSAA ไม่น่าจะย่อต่ำกว่า 99-100$ ก่อนลุ้นปรับตัวขึ้นต่อได้อีก มอง IWO ETF (Russell Growth 2000 ETF) ที่ระดับ 220$ ลงทุนได้ (+) XSpring AM คาดว่าตอนนี้ตลาดสหรัฐจะยังเกิด Sector Rotation และหุ้น Small Cap และ Microcap ที่ Laggards ยังจะ Outperformed ต่อในช่วงสั้นๆ 1-2 สัปดาห์ (+) 
  • ถ้าถือลงทุนได้ 3 เดือนขึ้นไป หุ้น EU Growth, EU Small-Cap และ German Stock น่าสนใจ (+)
  • XSpring AM แนะนำนักลงทุนเพิ่มการลงทุนในส่วนของ Private Credits สำหรับนักลงทุนรายใหญ่พิเศษ (UI) (+)

Daily Focus

  • การจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐ ADP เดือน พ.ย. ออกมาต่ำคาดที่ 103,000 ตำแหน่ง (Exp. 130,000) ส่วน Productivity นอกภาคเกษตรสหรัฐไตรมาส 3 ออกมาดีกว่าคาดที่ 5.2% (Exp. 4.9%) ซึ่งตลาดงานที่ลดความร้อนแรงลง ลดแรงกดดันความคาดหวังเงินเฟ้อค่าจ้างแรงงาน (+) ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆสหรัฐโดยรวมอ่อนตัวลงแต่ยังไม่เห็นสัญญาณอันตราย (+) XSpring AM คาดว่าจะยังสนับสนุนโมเมนตัมเชิงบวกหุ้นสหรัฐไปจนถึงสิ้นปี (+) และคาดว่าเงินเฟ้อ CPI เดือน พ.ย. ไม่น่ามากกว่าคาดในสัปดาห์หน้า ) ราคาน้ำมันดิบ WTI ราคาปรับตัวลงแรงหลังตัวเลขเศรษฐกิจประเทศใหญ่ชะลอความร้อนแรงลง 4-5 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อคืนนี้ราคาปิดต่ำกว่า 70$ (-) ซึ่งเป็นไปตามมุมมอง Technical ของทาง XSpring AM โดยยังมองเห็นความเสี่ยงที่น้ำมันจะวิ่งอยู่เรนจ์ 6x$ ต่อบาร์เรลจนกว่าจะ Q1 2024 ที่สัญญาณเศรษฐกิจประเทศใหญ่บางประเทศเริ่มดูดีขึ้นผนวกกับแรงส่งด้าน Supply เช่นความตึงเครียดในตะวันออกกลางรวมถึงการลดกำลังการผลิตในอัตราที่มากกว่าดีมานด์ที่คาดว่าจะลดลง 
  • คาดการณ์งบไตรมาส 4 NVIDIA ที่คาดว่าจะประกาศช่วงเดือน ก.พ. 2024 อาจจะเริ่มเห็นผลกระทบจาก US Chip Act 2.0 แต่ยังคาดการณ์ขนาดของผลกระทบต่อสัดส่วนรายได้จากจีนได้ยาก (-) คาดว่าหุ้น NVIDIA จะยังมีความเสี่ยงสูง (Risk/Reward) ในระยะ 3-6 เดือนไม่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับหุ้น Growth ขนาดใหญ่กลุ่ม Software As A Service ที่ไม่ได้โดนผลกระทบทางตรงจากแรงกดดันระหว่างประเทศ (+) โดยคาดว่าการเปิดตัวชิปเอไอรุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อให้สอดคล้องกับกฎการส่งออกชิปไปจีนของสหรัฐนั้น จะถูกเลื่อนออกไปจนถึงไตรมาสแรกของปี 2024 ) 
  • ยอดค้าปลีกยุโรปเดือน ต.ค. เทียบรายเดือนออกมาน้อยกว่าคาดที่ 0.1% (Exp. 0.2%) หุ้นยุโรปบวกต่อเนื่องก่อนรับเซ็นติเมนต์แรงเทขายอ่อนๆจากฝั่งสหรัฐ โดยหุ้นเยอรมันยัง Outperformed ต่อเนื่องโดย Forward PE ดัชนี DAX Index อยู่ที่เพียง 12x และ Bloomberg Analyst Upside 12 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 19% ส่วนหุ้นยุโรปยังเป็นกลุ่มที่ Laggards ในประเทศพัฒนาแล้ว PE ต่ำค่าเฉลี่ย 10 ปีกว่า -0.75 S.D. รวมถึงความเสี่ยง Hardlanding ลดลง คาดว่ามีโอกาสเป็น Recession ตาม Business Cycle ปกติ เพราะฉะนั้น Drawdown จะไม่ได้ลึกมาก ) โดยราคาหุ้นยุโรปยังอยู่ในโซนไม่สูงมากแม้จะปรับตัวขึ้นในช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา (+) 
  • Japan 10Y Yield ปรับตัวขึ้นแรง +5% มาที่ 0.68% มองว่าระยะสั้นหุ้นญี่ปุ่นต้องพักตัวก่อนปรับขึ้นต่อในปี 2024 XSpring AM แนะนำให้รอสะสมที่ระดับ Nikkei 225 แถวต่ำกว่า 32,000 จุด (+)
  • สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับจีนอยู่ในสงครามเย็นทางเศรษฐกิจในระยะยาวที่แม้จะยังมีความร่วมมือกันในทางเศรษฐกิจกับห่วงโซ่อุปทานโลก แต่เห็นแนวโน้มที่ระยะกลาง/ยาวทุกประเทศฝั่งตะวันตกจะมองการกระจายความเสี่ยงไปประเทศขนาดใหญ่ประเทศอื่นในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (-) ซึ่งแน่นอนว่าจะเพิ่มต้นทุนและยกระดับเงินเฟ้อในทศวรรษหน้าให้สูงกว่าสองทศวรรษที่ผ่านมาที่มีจีนเป็นโรงงานของโลก (-) ในขณะเดียวกันจีนก็จะมุ่งแก้ปัญหาและส่งเสริมการพึ่งพาตัวเองทั้งชิปขั้นสูง พลังงานสะอาด อาหาร การบริโภคในประเทศ การท่องเที่ยว และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ พร้อมลดการพึ่งพาภาคอสังหาและ Supply Chain ที่เกี่ยวข้อง ) ซึ่ง XSpring AM ยังเชื่อมั่นในจีน(+) แต่เชื่อว่าต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 5-10 ปีในการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง แต่ในแง่หุ้นมีความเป็นไปได้ที่หุ้นจีนจะฟื้นตัวใน 1-3 ปีข้างหน้า (+) โดยเฉพาะหากเกิดสถานการณ์ที่ประเทศใหญ่ประเทศอื่นเศรษฐกิจแย่กว่าที่คาดการณ์ในขณะที่จีนแย่น้อยกว่าที่คาดการณ์ แต่หากยังไม่เกิดช่วงเวลาดังกล่าว Fund-Outflow จากต่างชาติโดยเฉพาะชาติตะวันตกจะกระหน่ำซ้ำเติมหุ้นจีนต่อเนื่องในระยะสั้นกลาง (-) เพราะฉะนั้นนักลงทุนต้องใช้ความเข้าใจการเมืองโลก การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจจีนและใช้ความอดทนอย่างมาก ) 
  • TDK Corp ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ญี่ปุ่นเตรียมผลิตเซลล์แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนสำหรับ iPhone ในอินเดีย (+) เห็นเทรนด์ที่ถนนทุกสายมุ่งสู่การขยายการลงทุนทางตรงในอินเดีย (+) ด้าน Market Cap ตลาดหุ้นอินเดียเพิ่มขึ้น 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในเวลาไม่ถึง 3 ปี ซึ่งอินเดียเป็นหนึ่งในตลาดที่ทำผลงานดีที่สุดในกลุ่ม Emerging Market (+) ล่าสุด Market Cap หุ้นอินเดียทะลุ 4 ล้านล้านดอลลาร์ (+)
  • SET และ mai CEO Survey คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2023 ปรับตัวดีขึ้นแต่ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ในครั้งก่อน และคาดกว่า GDP จะเติบโตที่ระดับ 2% ถึง 3% และคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2024 จะเติบโตที่ระดับ 3% ถึง 4% ซึ่งแม้จะไม่ใช่อัตราการเติบโตที่สูงแต่ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่คาดการณ์การเติบโตปีหน้าจะดีกว่าปี 2023 (+) โดย CEO ส่วนใหญ่มองว่าการท่องเที่ยว นโยบายการคลังและการใช้จ่ายภาครัฐ และเสถียรภาพการเมืองในประเทศ จะเป็นเครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ (+) 

กลยุทธ์การลงทุน

  • Overweight Japan Value Stock
  • Slightly Overweight หุ้นสหรัฐ Small-Cap Growth มีโอกาสฟื้นตัว
  • Slightly Overweight หุ้น Semiconductor ทยอยสะสมลงทุน
  • Slightly Overweight หุ้น Large-Cap Growth สหรัฐ (Ex Tesla, NVIDIA) รอ Buy-On-Dip
  • Slightly Overweight หุ้นไทย Mid-Small Cap Stock มีโอกาสสำหรับกองทุนที่เลือกหุ้น Super Stock มองกองไทย Healthcare มองว่ายังเป็นภาคส่วนที่เป็น Growth Engine สำคัญของไทย

คำแนะนำ

  • ASP-NGF, TMBJPNAE หุ้นญี่ปุ่น
  • TMBINDAE, SCBKEQTG อินเดีย & เกาหลีใต้
  • SCBPGF หุ้นโลก Value, UGD หุ้นกลางเล็ก Durable
  • K-GHEALTH หุ้น Healthcare, ONE-HOSPITAL หุ้นไทยและหุ้นโลก Healthcare
  • ASP-SME, ABSM, ASP-T12, M-MIDSMALL, TLMSEQ เป็นกองหุ้นไทย Alpha 
  • K-EUROPE กองทุนหุ้นยุโรป, SCBEUSM หุ้นขนาดกลางเล็กยุโรป, TMBGER หุ้นเยอรมัน
  • ABAGS หุ้นขนาดกลางเล็กสหรัฐ Blended Character
  • TMB-ES-GCG, K-GTECH
  • SCBUSAA รับ 4.7 บาท, KF-US รับ 11.9 บาท, SCBROBOA รับ 14.3 บาท
  • เก็งกำไร M-META ที่ราคา METV ETF <10.5$ , TMB-ES-GINNO ที่ราคา ARKK ETF <43$ และ LHSEMI ที่ราคา SOXX ETF <500$

XSpring AM

Source: Bloomberg, Reuter