AM Daily Xpresso / 14 มกราคม 2025




XAM Shot

  • “ตลาดยังกังวลกับดอกเบี้ย เกิดแรงเทขายหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีกลับเข้าอุตสาหกรรมเดิม - จีนประกาศควบคุมค่าเงินเข้มงวด หลังค่าเงินหยวนนอกจีนอ่อนค่าอย่างหนัก”

Things you need to know

  • 1. “ตลาดยังกังวลกับการลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง เทขายหุ้นเทคออกเข้ากลุ่มอุตสาหกรรมเดิม” เมื่อคืนนี้ดัชนี S&P 500 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +0.16% มาอยู่ที่ 5,836.22 จุด แต่ดัชนี NASDAQ ปรับตัวลดลง -0.38% มาอยู่ที่ 19,088.10 จุด ปัจจัยสำคัญเกิดจากการเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีกลับเข้าไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมเดิมอย่างเช่นธนาคาร ขนส่ง พลังงาน สุขภาพ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้กลุ่มที่อ่อนไหวกับอัตราดอกเบี้ยถูกเทขาย ซึ่งปัจจุบันดัชนี S&P 500 เกือบกลับมาอยู่ในจุดเดิมก่อนขึ้นไปหลังจากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ด้านอันตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีในตลาด ปิดที่ระดับ 4.79% สูงสุดนับตั้งแต่พฤศจิกายน 2023
  • 2. “Goldman Sachs และ Deutsche Bank เตือน นักลงทุนสถาบันกำลังมีสถานะขาย” เมื่อวานนี้ Goldman Sachs ออกรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ถือครองหลักทรัพย์ของนักลงทุนสถาบันและกองทุนบริหารความเสี่ยง ชี้ว่าปัจจุบันสถานะของกองทุนเหล่านี้กำลังอยู่ในสถานะขาย เนื่องจากส่วนต่างของทุน (funding spread) ที่วัดจากสถานการณ์ถือครองตราสารอนุพันธ์ต่างๆ หดแคบลงจาก 130 bps เหลือ 70 bps ในระยะเวลาอันสั้น ด้าน Deutsche Bank ออกมาเตือนเช่นกันว่านักลงทุนสถาบันกำลังประเมินตลาดในแง่ลบอยู่ ณ เวลานี้
  • 3. “J&J และ GSK ประกาศเข้าซื้อบริษัทด้านสุขภาพเสริมทัพ” เมื่อวานนี้ Johnson & Johnson บริษัทด้านสุขภาพประกาศเข้าซื้อกิจการ Intra-Cellular Therapies บริษัทที่ทำเกี่ยวกับการรักษาความผิดปกติในระบบประสาทส่วนกลางของมนุษย์ มูลค่ากว่า 1.46 หมื่นล้านดอลลาร์ ด้าน GSK บริษัทยารายใหญ่จากอังกฤษ ประกาศเข้าซื้อ IDRx บริษัทผลิตยารักษามะเร็งในทางเดินอาหาร มูลค่ารวมกว่า 1.15 พันล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ในกรณีของ GSK บริษัทไม่ประสบความสำเร็จกับวัคซีนในระยะหลัง ทำให้ขาดรายได้ที่สำคัญไป
  • 4. “จีนประกาศควบคุมค่าเงินอย่างเข้มงวด” PBOC ประกาศจะควบคุมเสถียรภาพค่าเงินแทน ล่าสุดออกประกาศจะควบคุมค่าเงินหยวนอย่างเข้มงวด และเปิดโอกาสให้บริษัทในประเทศสามารถกู้ยืมเงินจากต่างประเทศได้มากขึ้น รวมถึงการตรวจสอบการซื้อขายค่าเงินหยวนอย่างเข้มข้นด้วย โดยปัจจุบันค่าเงินหยวนนอกจีน (Offshore Yuan: CNH) อยู่ที่ 7.356 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าที่สุดในรอบ 5 ปี
  • 5. “ผลสำรวจจาก Bloomberg ประเมิน อินเดียจะเติบโตช้าลง กดดันตลาดหุ้น” ผลการสำรวจดังกล่าวประเมินว่าดัชนี NSE Nifty 50 อาจปรับลดลงได้ถึง 5% ใน 3 เดือนแรกของปีนี้ เนื่องจากกำไรต่อหุ้นของบริษัทในอินเดียเริ่มชะลอตัวลง ประกอบกับค่าเงินรูปีของอินเดียปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดเช่นกัน ส่งผลให้กำไรเมื่อปรับตามค่าเงินแล้วออกมาต่ำ ด้าน HSBC ปรับลดคำแนะนำการลงทุนในอินเดียจากมากกว่าตลาด (overweight) เป็นกลาง (neutral) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา และประเมินว่ากำไรของบริษัทโดยรวมจะเติบโตที่ราว 5%

Daily Trend

  • "สัปดาห์นี้ตลาดยังจะผันผวน รับตัวเลขเศรษฐกิจ” ในสัปดาห์นี้ตัวเลขเศรษฐกิจจะยังมีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นตัวเลข GDP ของจีนหรือตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ สาเหตุสำคัญเนื่องจากตลาดกำลังประเมินอัตราดอกเบี้ยเปลี่ยนไปจากเดิมที่มองว่าจะเร่งลด กลายเป็นการคงอยู่นานเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ยังยืนสูง (higher for longer) และเศรษฐกิจยังดีกว่าคาด ส่งผลทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง และตลาดตราสารหนี้ได้รับผลกระทบในเชิงผลตอบแทนด้วย การตอบรับข่าวดีเป็นข่าวร้ายกับตลาดทุนจะยังคงเกิดขึ้นต่อ และทำให้คนที่ถือตราสารหนี้โดยเฉพาะตราสารหนี้ระยะยาวจำเป็นต้องรับผลขาดทุนที่มากขึ้น
  • “ปัจจัยที่ต้องติดตาม” ตัวเลข PPI หรือราคาสินค้าฝั่งผู้ผลิตของสหรัฐฯ เดือนธันวาคม ตลาดคาด 0.3% MoM/3.2% YoY สำหรับเดือนธันวาคม 2024

XSpring AM