XAM Daily / 13 Dec 2023




ภาพรวมตลาด

หุ้นสหรัฐบวกต่อ VIX ย่อตัวลง หลังเงินเฟ้อตามคาด แต่คาดตลาดจะเริ่มตึงตัวเพราะขึ้นมาเร็วแรง 6 สัปดาห์ติด

แนวโน้มตลาดวันนี้

  • หุ้นออสเตรเลียและญี่ปุ่นเปิดบวก (+) หุ้นจีนเปิดลบ (-) หุ้น India All-time high โมเมนตัมดีต่อเนื่อง (+) แนะนำรอสะสมหุ้นญี่ปุ่นที่ราคา Nikkei 225 32,000 จุด XSpring AM มองญี่ปุ่นและอินเดียยังมีลมหนุนด้าน Fund-Inflow จาก Global Investor (+) ด้าน Futures สหรัฐเปิดบวก (+)(ณ เวลา 9.02) XSpring AM ยังมองเห็น Style Rotation ในหุ้นสหรัฐคาดจะยังมีแรงขาย Magnificent-7 ตราบเท่าที่เงินเฟ้อลงแต่เศรษฐกิจยังดี ไปเข้ากลุ่มวัฏจักรและหุ้นขนาดกลางเล็ก Laggards-Play (+) 
  • แนะนำ Go With The Flow โค้งสุดท้ายหุ้น Mid/Small Growth สหรัฐ ซึ่งขึ้นมาช้ากว่าในช่วงที่ผ่านมา มองว่ากองทุนหลัก SCBUSAA ไม่น่าจะย่อต่ำกว่า 105$ ก่อนลุ้นปรับตัวขึ้นต่อได้อีก มอง IWO ETF (Russell Growth 2000 ETF) ที่ระดับ 225$ ลงทุนได้ (+) XSpring AM คาดว่าตอนนี้ตลาดสหรัฐจะยังเกิด Sector Rotation และหุ้น Small Cap และ Microcap ที่ Laggards ยังจะ Outperformed ต่อในช่วงสั้นๆ (+) แต่เราแนะนำให้นักลงทุนที่กำไรแบ่งขายออกมาบางส่วน ) เพื่อเป็นการ Risk Management มี Cash สำรองเผื่อมี Tail Risk ) 
  • ถ้าถือลงทุนได้ 3 เดือนขึ้นไป หุ้น EU Growth, EU Small-Cap และ German Stock น่าสนใจ (+)
  • XSpring AM แนะนำนักลงทุนเพิ่มการลงทุนในส่วนของ Private Credits สำหรับนักลงทุนรายใหญ่พิเศษ (UI) (+)

Daily Focus

  • เงินเฟ้อสหรัฐออกมาตามคาดทุกชุดตัวเลข ลดแรงกดดันเงินเฟ้อเดือน พ.ย. ลงได้ต่อเนื่องจากเดือน ต.ค. โดยเงินเฟ้อ CPI เทียบรายเดือนออกมาตามคาดที่ 0.1% เทียบรายปีออกมาที่ 3.1% ส่วน Core Inflation ออกมาตามคาดที่ 0.3% และเทียบรายปีออกมาที่ 4% ) ตลาดมีแรงเทขายสลับบ้างหลังปรับขึ้นต่อเนื่องมาเป็นสัปดาห์ที่ 6 โดยคาดว่าคืนนี้เฟดจะคงดอกเบี้ยและย้ำเมสเสจว่าเศรษฐกิจแข็งแกร่งแต่เห็นสัญญาณการชะลอตัวลง คาดว่าเฟดจะบอกว่าเงินเฟ้อลดลงก็จริงแต่อาจจะไม่ได้ลดลงเร็วเท่าที่ตั้งใจ และจะบริหารความคาดหวังตลาดว่าอาจจะขึ้นดอกเบี้ยก็ได้ในอนาคตถ้าจำเป็น รวมถึงน่าจะย้ำว่าจะไม่รีบลดดอกเบี้ย (คาดว่าจะ Hawkish Tone เล็กน้อย) (-) ซึ่งตลาดอาจจะมีแรงขายอ่อนๆ (-) มองว่าเป็นโอกาสแบ่งขายทำกำไร/ลดสัดส่วน โดยเฉพาะนักลงทุนที่พอร์ตมีหุ้น US Growth สูงๆ เพื่อสะสมเงินสดไว้รอ Buy-On-Dip ใน 1-3 เดือนข้างหน้า (+)
  • ดัชนีสำรวจเซ็นติเมนต์เศรษฐกิจยุโรป ZEW Survey เดือน ธ.ค. ซึ่งเป็น Leading Indicator เศรษฐกิจยุโรปสะท้อนโมเมนตัมเศรษฐกิจยุโรปที่ดีกว่าคาดโดยออกมาที่ 23 (Exp. 12) ส่วน ZEW Survey เยอรมันดีกว่าคาดเช่นกันที่ 12.8 (Exp. 8.ทาง XSpring AM มองว่ายุโรปลุ้นมี Twin Engines ที่จะ Boost ราคาหุ้นในระยะสั้น/กลาง จากโมเมนตั้มเศรษฐกิจยุโรปที่ดีขึ้น (Positive Surprise ต่อเนื่อง) พร้อม Valuation ที่ถูกเทียบกับตัวเองในอดีต 5 ปี, 10 ปี และเทียบกับสหรัฐและญี่ปุ่น รวมถึงหุ้นสหรัฐและญี่ปุ่นดูน่าสนใจน้อยลงโดนเปรียบเทียบจากการที่ราคาขึ้นมาจนเริ่มเต็มมูลค่าในระยะสั้นแล้ว (+) 
  • ดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจญี่ปุ่น Tankan การใช้จ่ายด้านทุน (Capex) เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดที่ 13.5% ในไตรมาส 4 (Exp. 12.4%) ด้านดัชนี Tankan ภาคการผลิตมากกว่าคาดที่ 12 (Exp. 10) มีเพียง Tankan Outlook ที่ต่ำคาดเล็กน้อยที่ 8 (Exp. 9) ภาพรวมบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นมีการฟื้นตัวค่อนข้างแข็งแกร่ง (+) มองว่าหุ้นญี่ปุ่นเป็นการพักตัว Sideway ก่อนมีโอกาสปรับขึ้นต่อ ซึ่งหากหุ้นปรับขึ้นสอดคล้องไปกับ Japan 10Y Yield ที่เพิ่มขึ้น จะเป็นการขึ้นที่แข็งแรงและขึ้นจากความคาดหวัง Earning Growth ไม่ใช่ขึ้นเพราะ Easy Money แบบช่วงที่ผ่านมา (+) 
  • หุ้นจีน CSI 300 ปิดเหนือ 3,000 มองเป็นการฟื้นตัวจากโซนราคาต่ำ ภาพรวมเริ่มเห็นสัดส่วน % MACD Buy ใน 10 วันทำการที่ผ่านมาสูงกว่า % MACD Sell (+) คาดว่าหุ้นจีนมีโอกาศรีบาวนด์อ่อนๆ +5% ถึง 8% ในระยะสั้น หลัง Laggards มาอย่างมากในปี 2023 หากนักลงทุนมีต้นทุนสูงกว่านั้น ให้แบ่งออกบางส่วนยามราคาปรับตัวขึ้นมา ) 
  • เงินเฟ้อ CPI อินเดียเดือน พ.ย. เทียบรายปีออกมาที่ 5.55% เพิ่มขึ้นจากเดือน ต.ค. ที่ 4.87% จากเงินเฟ้อราคาอาหาร ซึ่งสูงกว่าเงินเฟ้อคาดหวังที่ 4% แต่ยังอยู่ในกรอบ 2-6% ) Market Cap หุ้นอินเดียแซงฮ่องกงขึ้นเป็นตลาดหุ้นอันดับ 7 ของโลก ซึ่งจะยิ่งดึงดูดความสนใจและกระแสเงินลงทุนในระยะยาวหลังจากนี้ (+) โดยอินเดียทำ All-time high มองว่านักลงทุนอาจแบ่งเข้าลงทุน หรือรอย่อเล็กน้อยราว -3% เพื่อเข้าลงทุนกองอินเดีย Alpha Fund (+) อินเดียยังคงดึงดูดเงินลงทุนทางตรงและในตลาดทุนต่อเนื่อง โดยเฉพาะการแย่งเม็ดเงินลงทุนในหุ้นจากจีนและฮ่องกงจากการเป็นเครื่องจักรการเติบโตขนาดใหญ่ที่สำคัญมากของโลก (+) 
  • SET Index ยัง Underperformed ต่อเนื่อง ยังขาดเครื่องยนต์ผลักดันราคาหุ้นทั้ง Fund-Flow ยังไม่เข้า รวมถึงปัจจัยด้าน Earning Growth ยังไม่หนุนนำ Valuation ไม่ได้ถูกเทียบ Peers อาเซียน โดยหุ้นกลุ่ม Non-Bank ยังได้รับแรงกดดันจากมาตรการภาครัฐในการพักหนี้ ลดดอกเบี้ยให้กับลูกหนี้ในระบบอาจกระทบรายได้ (-) มองว่าหุ้นไทยจะเห็นทิศทางที่ดีขึ้นต้องกลางปี 2024 ที่เริ่มเห็นผลจากมาตรการกระตุ้นภาครัฐไปแล้ว (+) 

กลยุทธ์การลงทุน

  • Slightly Overweight German & EU Alpha Stock (Laggards & Low Valuation Play) 
  • Slightly Overweight India & South Korea Stock
  • Slightly Overweight Japan Value Stock
  • Slightly Overweight หุ้นสหรัฐ Small-Cap Growth มีโอกาสฟื้นตัว
  • Slightly Overweight หุ้น Semiconductor ทยอยสะสมลงทุน
  • Slightly Overweight หุ้น Large-Cap Growth สหรัฐ (Ex Tesla, NVIDIA) รอ Buy-On-Dip
  • Slightly Overweight หุ้นไทย Mid-Small Cap Stock มีโอกาสสำหรับกองทุนที่เลือกหุ้น Super Stock มองกองไทย Healthcare มองว่ายังเป็นภาคส่วนที่เป็น Growth Engine สำคัญของไทย

คำแนะนำ

  • K-EUROPE กองทุนหุ้นยุโรป, SCBEUSM หุ้นขนาดกลางเล็กยุโรป, TMBGER หุ้นเยอรมัน
  • TMBINDAE, SCBKEQTG อินเดีย & เกาหลีใต้
  • ASP-NGF, TMBJPNAE หุ้นญี่ปุ่น
  • SCBPGF หุ้นโลก Value, UGD หุ้นกลางเล็ก Durable
  • K-GHEALTH หุ้น Healthcare, ONE-HOSPITAL หุ้นไทยและหุ้นโลก Healthcare
  • ASP-SME, ABSM, ASP-T12, M-MIDSMALL, TLMSEQ เป็นกองหุ้นไทย Alpha 
  • ABAGS หุ้นขนาดกลางเล็กสหรัฐ Blended Character
  • TMB-ES-GCG, K-GTECH
  • SCBUSAA รับ 4.7 บาท, KF-US รับ 11.9 บาท, SCBROBOA รับ 14.3 บาท
  • เก็งกำไร M-META ที่ราคา METV ETF <10.5$ , TMB-ES-GINNO ที่ราคา ARKK ETF <43$ และ LHSEMI ที่ราคา SOXX ETF <500$

XSpring AM

Source: Bloomberg, Reuter