ลงทุนแบบคำนึงถึง ESG…ตอนที่ 1 Environment




ลงทุนแบบคำนึงถึง ESG…ตอนที่ 1 Environment

สำหรับผู้ที่เป็นนักลงทุนและคนที่ทำงานในแวดวงการลงทุน คำว่า ESG (หรือ Environment, Social, and Governance) คงเป็นคำที่ได้ยินมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วง 2-3 ปีมานี้ ความนิยมของการลงทุนแบบ ESG เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากความตระหนักรู้ถึงประโยชน์ของการลงทุนในบริษัทที่มี ESG ที่นอกจากจะทำให้โลกพัฒนาอย่างยั่งยืนแล้วยังสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวด้วย ซึ่งในวันนี้เราจะพูดถึง E คือ Environmental หรือปัจจัยที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม


ทราบหรือไม่ว่าปัจจุบันโลกมีพื้นที่ป่าเหลือประมาณ 30% ของพื้นที่ทั้งหมด ลดลงจากประมาณ 66% ในปี 1937 ซึ่งเป็นผลจากการขยายพื้นที่เกษตรกรรมและการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว อย่างเช่นอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มในประเทศบราซิล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พื้นพื้นที่ป่าอะเมซอนลดลง นอกจากนี้ผลจากการปลูกปาล์มน้ำมันยังมีส่วนทำให้เกิดไฟป่าในอะเมซอนเพิ่มขึ้นด้วย หรือปัญหาการทำประมงมากเกินไป (Overfishing) ที่ทำให้จำนวนประชากรปลาในทะเลลดลง

 
จากข้อมูลของ NOAA (National Oceanic and Atmospheric Administration) ระดับของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยนับตั้งแต่มีการปฏิวัติอุตสาหกรรมในช่วงปี 1820-1840 โดยระดับ CO2 เพิ่มจากราว 280 ppm (parts per million หรือ จำนวนในล้านส่วน) มาเป็นราวๆ 300 ppm ในช่วงปี 1900 และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเกินระดับ 400 ppm ในปี 2018 ซึ่งการเพิ่มขึ้นของ CO2 ส่งผลกระทบต่ออุณหภูมิโลกให้สูงขึ้น ทำให้ฤดูการผันผวน ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นจากการละลายของน้ำแข็ง ซึ่งก็ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อผลผลิตอาหารของโลกด้วยเช่นเดียวกัน ดังที่ เดวิด แอทเทนโบโรได้พูดไว้ในสารคดี A Life On Our Planet บน Netflix ว่าหากเรายังคงดำเนินการพัฒนาแบบเดิมไปอย่างนี้ สักวันหนึ่งลูกหลานเราอาจจะไม่สามารถใช้ชีวิตบนโลกนี้ได้อีก


ประโยชน์จากการลงทุนที่คำนึงถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมนั้น นอกจากจะทำให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ธุรกิจดำเนินงานอย่างรักษ์โลกแล้ว ยังทำให้ผลตอบแทนระยะยาวมีความมั่นคงขึ้นด้วย เนื่องจากว่าทุกครั้งที่มีข่าวหรือประเด็นด้านลบที่เกี่ยวข้องกับ ESG ราคาหุ้นก็จะสะท้อนในด้านลบด้วยเช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างหุ้นของบริษัท JBS SA ซึ่งเป็นผู้ผลิตเนื้อรายใหญ่ของบราซิลซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับไฟป่าที่อะเมซอน โดยถึงแม้ว่าในปีนี้กำไรของบริษัทจะเติบโตสูงเป็นประวัติการ รวมถึง upside จากราคาเป้าหมายของนักวิเคราะห์ที่สูงถึง 67% ด้วยกัน แต่ราคาหุ้นกลับลดลงถึง 22% ในปีนี้ ต่างกับบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันอย่าง Manufacturing Global Foods SA ที่ราคาปรับขึ้นกว่า 50% ซึ่งนักวิเคราะห์ของ Morgan Stanley กล่าวว่าการปรับตัวลงของราคาหุ้นเกิดจากความกังวลในประเด็น ESG ของบริษัทที่ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ปัจจัยเสี่ยงที่เกิดจากประเด็นนี้อาจนำมาซึ่งความเสียหายทางการเงินได้อีกเช่นเดียวกัน เช่นถ้าหากบริษัทถูกปรับจากประเด็นที่เกิดขึ้น อาจนำไปสูงค่าใช้จ่ายจำนวนมากที่ยังไม่มีใครรู้ว่าจะจบลงที่เท่าไหร่ ดังนั้น การไม่ลงทุนในหุ้นที่ไม่มี ESG จึงเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด


กองทุนเปิดเอ็กซ์สปริง หุ้นไทยยั่งยืนซิสเทมาติก เป็นกองทุนที่ใช้ปัจจัยด้าน ESG มาบริหารกองทุน โดยเราใช้ข้อมูลคะแนน ESG ของ Arabesque S-Ray® ซึ่งมีคะแนน ESG ของหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกว่า 130 บริษัท โดยนักลงทุนที่สนใจข้อมูลดังกล่าวสามารถดูได้ในเวปไซต์ www.settrade.com/settrade/esg-information ครับ