สร้างพอร์ตให้แข็งแกร่งด้วย "พีระมิดการลงทุน"




การลงทุนที่มีแผนในการจัดสรรเงินลงทุน อาจเป็นข้อได้เปรียบสำหรับนักลงทุน เพราะเสมือนมีแผนที่นำทาง ที่จะช่วยลดความผันผวนหรือความเสี่ยงระหว่างทางที่ลงทุน มีหนึ่งในแนวทางการจัดสรรเงินลงทุนที่เป็นที่ยอมรับและใช้กันทั่วไป คือ “พีระมิดการลงทุน” (Investment Pyramid) แนวทางนี้จะช่วยให้เห็นภาพการกระจายความเสี่ยงได้ชัดเจนยิ่งขึ้น  โดยเปรียบเทียบการจัดสรรเงินลงทุนกับสินทรัพย์ ให้สอดคล้องไปกับรูปทรงของพีระมิด ซึ่งฐานของพีระมิดจะประกอบไปด้วยสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ และยิ่งสูงขึ้นไปบนบยอดพีระมิด ความเสี่ยงของสินทรัพย์ก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย ทั้งนี้การสร้างพีระมิดการลงทุนที่สมดุล จะช่วยให้สามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้อย่างมั่นคง

  • พีระมิดการลงทุน มีสินทรัพย์อะไรบ้าง?

สินทรัพย์แต่ละประเภทถูกกําหนดโดยลักษณะเฉพาะที่ให้ผลตอบแทนและความเสี่ยงที่แตกต่างกัน สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ สามารถคาดการณ์ผลตอบแทนได้ค่อนข้างแน่นอน แต่สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงก็มีโอกาสสร้างผลตอบแทนให้เพิ่มขึ้นได้ด้วย

  • ฐานพีระมิด มักมีสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ ดังนี้

-เงินฝากธนาคารที่มีสภาพคล่องสูง สามารถถอนออกมาใช้ได้ตลอดเวลา แต่ให้ผลตอบแทนค่อนข้างต่ำ

-พันธบัตรรัฐบาล มีความเสี่ยงต่ำ แต่ผลตอบแทนก็ไม่สูงมากนัก

-กองทุนรวมตลาดเงินที่สามารถลงทุนได้ในตราสารหนี้ระยะสั้น มีความเสี่ยงต่ำและสภาพคล่องสูง

  • พีระมิดช่วงกลาง สินทรัพย์ความเสี่ยงปานกลาง ดังนี้

-กองทุนรวมตราสารหนี้ ลงทุนในตราสารหนี้หลากหลายประเภท มีความเสี่ยงปานกลางและให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝาก

-กองทุนรวมผสม เป็นการผสมผสานระหว่างการลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ ทำให้มีความเสี่ยงและผลตอบแทนปานกลาง

-ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ที่ช่วยกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้

  • ยอดพีระมิด สินทรัพย์ความเสี่ยงสูง ดังนีh

-การลงทุนหุ้น หรือ กองทุนรวมหุ้น ลงทุนในหุ้นของบริษัทต่างๆ หลากหลายบริษัท ที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนสูง แต่มีความผันผวนสูงเช่นกัน

-อสังหาริมทรัพย์ เป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามเวลา แต่ต้องระวังความเสี่ยงด้านสภาพคล่องและภาวะเศรษฐกิจ

  • พื้นฐานหลักการจัดพอร์ตการลงทุนเริ่มจากอะไรถึงจะดี?

ก่อนการเริ่มลงทุนอาจมาจากหลักการง่ายๆ ดังนี้ 

-การทำความเข้าใจ การลงทุนแต่ละประเภท ไม่ว่าจะเป็น ตราสารหนี้ กองทุนรวม หุ้น หรือ อสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะประเภทไหนต้องมีการศึกษาข้อมูลให้เข้าใจ เพื่อจะใช้เป็นเทคนิคในการสร้างโอกาสให้กับพอร์ต

-สร้างสมดุลในการกระจายความเสี่ยง ในแต่ละการลงทุนควรกระจายความเสี่ยงไปสู่สินทรัพย์หลาย ๆ หลักทรัพย์ ในพอร์ตของนักลงทุนก็ควรมีความหลากหลาย เช่น มีทั้งหุ้น ตราสารหนี้ และควรมีการสำรองเงินสดไว้ใช้ยามจำเป็น 

-ติดตามสถานการณ์อยู่เสมอ เพื่อประเมินมูลค่าพอร์ตการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตรวจสอบว่าผลตอบแทนและเพื่อเปลี่ยนแปลงแนวทางการลงทุนใหม่

-มีเป้าหมายในการลงทุน ควรลงทุนในสัดส่วนที่เหมาะสมกับความต้องการ การยอมรับในความเสี่ยง และข้อจำกัดในการลงทุนของนักลงทุนแต่ละคน ซึ่งการจำกัดสัดส่วนการลงทุน อาจดูจากความต้องการส่วนตัว 

ซึ่งในการลงทุนแต่ละครั้ง นักลงทุนควรที่จะทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทของสินทรัพย์ที่จะลงทุน ความเสี่ยงและโอกาสในการสร้างผลตอบแทน และมองหาตัวช่วยที่จะทำให้การลงทุนได้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด ตัวช่วยอย่าง พีระมิดการลงทุน อาจช่วยในการจัดสรรเงินลงทุนในสินทรัพย์แต่ละความเสี่ยงได้ตรงกับความต้องการ