|
การลงทุนแบบ Thematic หรือ Thematic Investing เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การลงทุนที่เน้นไปที่การวางเงินลงทุนในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับธีมการลงทุน ที่มีการคาดการณ์ว่าจะเติบโตในอนาคต กลยุทธ์นี้มีการมองไปถึงอนาคตที่อาจมีผลต่อเศรษฐกิจและสังคมอย่างไร วันนี้จะพาไปหาคำตอบ - กลยุทธ์ Thematic Investing ทำอย่างไร?
กลยุทธ์การลงทุนในอนาคตที่เกี่ยวข้องกับ Thematic Investing มักเน้นไปที่การจับตามองแนวโน้มที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งมีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจและสังคม นักลงทุนที่ใช้กลยุทธ์นี้จะพยายามหาโอกาสลงทุนในบริษัทที่มีความสามารถในการเติบโตและทำกำไรจากแนวโน้มการเติบโต ความสำเร็จของการลงทุนแบบ Thematic ขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ที่ถูกต้องและตรงกับการคาดการณ์แนวโน้มในอนาคตได้อย่างถูกต้อง Thematic Themes ได้รับความนิยม โดยการลงทุนจะเน้นไปที่ธีมการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว ยกตัวอย่างธีม เช่น - ด้านปัญญาประดิษฐ์ ลงทุนในบริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยี AI และการเรียนรู้ของเครื่องที่สามารถนำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การแพทย์, การเงิน, การผลิต, และการบริการ
- ด้านพลังงานสะอาด ลงทุนในบริษัทที่พัฒนาและนำเสนอพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์, พลังงานลม, พลังงานน้ำ และเทคโนโลยีที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
- ด้านสุขภาพดิจิทัล ลงทุนในบริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการดูแลสุขภาพ เช่น อุปกรณ์สวมใส่เพื่อการติดตามสุขภาพ
- ด้านบล็อกเชน ลงทุนในบริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชน เช่น สัญญาอัจฉริยะ, การเงินแบบกระจาย (DeFi), และการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล
- ด้านการพัฒนาระบบอัจฉริยะ ลงทุนในบริษัทที่พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีสำหรับเมืองอัจฉริยะ เช่น ระบบคมนาคมอัจฉริยะ
- ด้านเทคโนโลยีการเงิน ลงทุนในบริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยีทางการเงินใหม่ ๆ เช่น แอปพลิเคชันการชำระเงินหรือบริการทางการเงินที่ใช้เทคโนโลยี AI เป็นต้น
ซึ่งการลงทุนใน Themes เหล่านี้จะมุ่งหวังผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว และกองทุนที่ลงทุนใน Thematic Theme นั้นจัดเป็นกองทุนรวมหมวดอุตสาหกรรมที่มุ่งลงทุนเฉพาะเจาะจงในหมวดอุตสาหกรรม และเป็นกองทุนที่มีการเกาะกลุ่มสูง มีความผันผวนมากกว่ากองทุนทั่วไป จึงจัดเป็นกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงสูงมาก ดังนั้นผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจ ศึกษาเงื่อนไข ความเสี่ยง และผลตอบแทนก่อนตัดสินใจลงทุน
|
ไทย
English
-0.83%
