XAM Weekly X-Ray / 11 November 2024




XAM Shot

  • “Bitcoin แตะจุดสูงสุดตลอดกาล ด้านจีนยังอ่วมจากมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ไม่พอ รวมถึงสงครามการค้ารอบใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น”

Things you need to know

  • 1. “Bitcoin ทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาล แตะระดับ 8 หมื่นดอลลาร์” เหตุผลสำคัญมาจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เป็นปัจจัยหนุนการเพิ่มตัวของราคา Bitcoin เนื่องจากทรัมป์มีนโยบายในการสนับสนุนสินทรัพย์ดิจิทัล ทำให้ตลาดคาดว่าการขึ้นมาของทรัมป์จะตามมาด้วยนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงลดเงื่อนไขในการกำกับดูแลที่ปัจจุบันยังถือว่าเข้มงวดด้วย
  • 2. “รัฐบาลจีนประกาศมาตราการช่วยเหลือหนี้รัฐบาลท้องถิ่น – UBS ปรับลด GDP จีนปีหน้าลง” โดยมาตราการช่วยเหลือดังกล่าวมีอายุ 5 ปี คิดเป็นเงินกว่า 10 ล้านล้านหยวน ซึ่งรัฐบาลกลางของจีนจะเข้าไปรับภาระหนี้แทนรัฐบาลท้องถิ่น ผ่านกลไกการออกพันธบัตรระยะยาว อย่างไรก็ตามหนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่นที่ประเมินโดย IMF นั้นอยู่ที่ 60 ล้านล้านหยวน มากกว่ามาตราการสนับสนุน ด้าน UBS ปรับลด GDP จีนในปีหน้าลงเหลือ 4.0% จาก 4.5% โดยมองว่าการที่ทรัมป์จะกลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะส่งผลเสียต่อจีนอย่างมีนัยสำคัญ
  • 3. “จีนยังต้องต่อสู้กับสภาวะเงินฝืด หลังตัวเลขออกมาย่ำแย่” โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของจีนในเดือนตุลาคมอยู่ที่ 0.3% YoY ด้านดัชนีราคาฝั่งผู้ผลิต (PPI) -2.9% YoY บ่งบอกว่ามาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมายังไม่สามารถที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีอย่างที่คาดไว้ ด้าน Bloomberg ประเมินว่าการลดอัตราดอกเบี้ยอาจจำเป็นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ด้านประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของจีน ออกมากระตุ้นบริษัทหลักทรัพย์และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมต่างๆ ให้ออกมาสนับสนุนตลาดทุนเพิ่มเติม โดยจะมีการหารือมาตราการออกมาในวันศุกร์นี้
  • 4. “รายงานข่าวเผย TSMC หยุดการส่งชิปขนาด 7 nm และต่ำกว่าให้ลูกค้าในจีน หลังได้รับการร้องขอจากสหรัฐฯ” The Register รายงานโดยอ้างอิง Nikkei Asia ที่ระบุว่าบริษัทมีประกาศแจ้งลูกค้าว่า ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน เป็นต้นไป จะหยุดส่งชิปขั้นสูงที่ผลิตโดยเทคโนโลยี 7 nm และต่ำกว่านั้นให้กับลูกค้าในจีนตามที่สหรัฐฯ ร้องขอ ทั้งนี้จะไม่กระทบกับชิปทั่วไปรวมถึงชิปด้านการสื่อสารด้วย ซึ่งตัวแทนของบริษัทปฏิเสธจะให้ความเห็นกับข่าวดังกล่าว โดยระบุว่าบริษัทจำเป็นต้องปฎิบัติตามกฎที่เกี่ยวข้อง
  • 5. “นักลงทุนต่างชาติยังถอนการลงทุนในจีนอย่างต่อเนื่อง ไตรมาส 3 ถอนอีก 8.1 พันล้านดอลลาร์” จากความกังวลและความตึงเครียดในสงครามการค้า รวมถึงสภาพเศรษฐกิจของประเศจีนที่ไม่ดี โดยหากนับรวมตั้งแต่ต้นปี จะอยู่ที่ 1.28 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงต่อเนื่อง 3 ปีติดต่อกัน โดยหากยังลดลงต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี จะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1990 ที่จีนมีสถานะเงินไหลออกจากการลงทุนทางตรง (Net FDI Outflow) ออกจากประเทศ โดยหากนับตั้งแต่ต้นปี มีบริษัทจำนวนมากประกาศถอนการลงทุนออกจากจีน ทั้ง Nippon Steel ของญี่ปุ่นที่ประกาศขายหุ้นส่วนที่ถือในกิจการร่วมค้าในจีน, IBM ปิดแผนกวิจัยในจีน ไปจนถึงการลดกำลังการผลิตของ Nissan และ Volkswagen

Daily Trend

  • "ทรัมป์กลับมา จะทำให้ตลาดกำลังพัฒนาได้รับผลกระทบ” ในช่วงที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีระหว่างปี 2016-2020 ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งละตินอเมริกา เป็นไปในทางลบ การกลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้งของทรัมป์ในครั้งนี้ จะส่งผลกระทบและแรงสั่นสะเทือนให้กลับตลาดประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม BRICS ที่ถูกมองว่ามีความใกล้ชิดกับจีนและรัสเซีย โดยสะท้อนจากค่าเงินของประเทศกำลังพัฒนาที่อ่อนค่าฉับพลันหลังจากการเลือกตั้ง และส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก โดยหลังจากนี้เราคาดว่าสหรัฐฯ จะเป็นตลาดที่มีบทบาทอย่างมากตามประธานาธิบดีคนใหม่
  • “ปัจจัยที่ต้องติดตาม” เผยแพร่ความเห็นและบันทึกการประชุมของ BOJ


XSpring AM

ดาวน์โหลด