XAM Weekly X-Ray / 27 มกราคม 2025




XAM Shot

  • “ผู้เชี่ยวชาญส่งสัญญาณเตือน หุ้นสหรัฐฯ ปีนี้อาจไม่เติบโตอย่างที่คิด - ทรัมป์ขึ้นกำแพงภาษีตอบโต้โคลอมเบียหลังไม่อนุญาตให้เครื่องบินบรรทุกผู้อพยพที่ส่งกลับลงจอด”

Things you need to know

  • 1. “ทรัมป์ประกาศขึ้นกำแพงภาษีโคลอมเบียทันที 25% หลังปฏิเสธรับผู้อพยพจากสหรัฐฯ” รัฐบาลของโคลอมเบียปฏิเสธไม่ให้เครื่องบินของสหรัฐฯ ที่บรรทุกผู้อพยพซึ่งสหรัฐฯ ผลักดันออกนอกประเทศจำนวน 2 ลำ ลงจอดที่สนามบินของประเทศ ทำให้ทรัมป์โกรธและมีคำสั่งขึ้นกำแพงภาษีทันที 25% ภายใต้อำนาจสถานการณ์ฉุกเฉินที่เขาประกาศในวันแรกของการดำรงตำแหน่ง และจะเพิ่มเป็น 50% ในสัปดาห์หน้า ด้านโคลอมเบียประกาศตอบโต้ทันที ด้วยการขึ้นภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ เช่นกัน
  • 2. “จีนประกาศออกมาตรการสนับสนุนตลาดหุ้นเพิ่มเติม หลังหุ้นจีนยังร่วงอย่างหนัก” มาตรการล่าสุดประกอบไปด้วยการส่งเสริมให้จัดตั้งกองทุนดัชนี (Index Fund – กองทุนที่ลงทุนตามดัชนี) ลดภาษีและต้นทุนสำหรับกองทุนดัชนีที่ลงทุนใน A-share (หุ้นจีนแผ่นดินใหญ่) และส่งเสริมให้ต่างชาติลงทุนผ่านกองทุนเหล่านี้ ถึงอนุมัติให้บริษัทประกันสามารถลงทุนในหุ้นได้สูงถึง 5.2 หมื่นล้านหยวน ด้านค่าเงินหยวนอ่อนค่าสุดในรอบ 3 ปี อ่อนค่าลงถึง 12% และกำลังจะเท่ากับค่าเงินฮ่องกงดอลลาร์นับตั้งแต่ปี 2007
  • 3. “ผู้เชี่ยวชาญเตือน หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเติบโตช้าลง ส่งสัญญาณหุ้นสหรัฐฯ ชะลอตัว” Bloomberg Intelligence ระบุว่าคาดการณ์กำไรของหุ้นกลุ่ม Magnificent 7 ที่คิดเป็น 1 ใน 3 ของดัชนี S&P 500 ของตลาด เติบโตลดลงจาก 34% ในปี 2024 เหลือเพียง 18% สำหรับปี 2025 และหากตัด Nvidia ออกไป กำไรกลุ่ม Magnificent 7 เหลือเพียง 3% ในปีนี้ อย่างไรก็ตามคาดการณ์สำหรับทั้งดัชนีแล้วยังเติบโตที่ 13% สำหรับปี 2025
  • 4. “อิสราเอลและเลบานอน ขยายเวลาหยุดยิง - ข้อขัดแย้งตัวประกันฮามาสได้ข้อยุติ” ทั้งสองฝ่ายตกลงขยายระยะเวลาหยุดยิงออกไปจนถึงวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อให้เวลากับทางอิสราเอลในการถอนกำลังทหารออกจากเลบานอนเพิ่มเติม ด้านข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซาที่มีปัญหาในการส่งมอบตัวประกันชาวอิสราเอลของกลุ่มฮามาสที่ทำให้อิสราเอลไม่อนุญาตให้ชาวปาเลสไตน์กลับเข้าพื้นที่ฉนวนกาซาได้ข้อยุติ หลังจากฮามาสตกลงจะปล่อยตัวประกันเพิ่มเติม และอิสราเอลจะอนุญาตให้ชาวปาเลสไตน์กลับเข้าพื้นที่เช้าวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น
  • 5. “วิกฤติอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกง เริ่มส่งผลกับธนาคารในฮ่องกง” นับตั้งแต่ปี 2018 ที่ราคาอสังหาริมทรัพย์ของฮ่องกงขึ้นถึงจุดสูงสุด ปัจจุบันราคาเฉลี่ยของอสังหาริมทรัพย์ร่วงลงถึง 40% ทำให้ธนาคารหลายแห่งที่ปล่อยสินเชื่อต้องบังคับหนี้ด้วยการยึดและขายอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้ แต่ก็ได้ราคาที่ไม่ดี กลายเป็นขาดทุนจากการปล่อยสินเชื่อโดยปริยาย นอกจากนั้นพื้นที่เช่าต่างๆ เริ่มว่างมากขึ้น ทำให้ความเสี่ยงเริ่มมีมากขึ้นเช่นกัน โดย Bloomberg Intelligence ระบุว่าธนาคารที่มีความเสี่ยงประกอบไปด้วย Hang Seng Bank (ธนาคารลูกของ HSBC), Bank of East Asia, Bank of China, HSBC และ Standard Chartered

Daily Trend

  • "ธนาคารกลางกำหนดทุกสิ่ง” สัปดาห์นี้จะมีการประกาศตัวเลขสำคัญโดยเฉพาะ Core PCE ของสหรัฐฯ ที่ตลาดคาด 0.2% MoM/2.8% YoY ในวันศุกร์ นอกจากนั้นยังมีการตัดสินใจลดดอกเบี้ยของ ECB และ FED ที่ยังรออยู่เช่นกัน ทำให้ตลาดสัปดาห์นี้อยู่ในสภาวะเฝ้าระวัง (cautious) มากกว่าที่จะมีทิศทางที่ชัดเจน ทิศทางของตลาดประเมินว่า FED จะคงอัตราดอกเบี้ย ส่วน ECB จะลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ ทำให้ในฝั่งยุโรปถูกมองเป็นบวกมากกว่า เนื่องจากเงินเฟ้อสามารถควบคุมได้ ด้านมูลค่าหุ้นของสหรัฐฯ เริ่มตึงตัวทำให้ตลาดอ่อนไหวกับตัวเลขเศรษฐกิจมีสูงมากขึ้น
  • “ปัจจัยที่ต้องติดตาม” การประกาศตัวเลข NBS Manufacturing PMI ประจำเดือนมกราคม ตลาดคาด 50.3 หน่วย


XSpring AM