XAM WeeklyX-Ray / 9 September 2024

• “ตลาดยังผันผวนหนัก หลังจากการจ้างงานสหรัฐพลาดเป้า - ปัจจัยจีนฉุดเศรษฐกิจทั่วโลก”

• 1. “หุ้นสหรัฐฯ ยังลงต่อเนื่อง หลังตัวเลขจ้างงานพลาดเป้า” โดยดัชนี S&P 500 ปรับตัวลดลง -1.73% ในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา และถ้านับทั้งอาทิตย์ร่วงลงมาแล้ว -4.25% ประเด็นสำคัญคือตัวเลข Non-farm Payroll หรือตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร เติบโตเพียง 1.42 แสนตำแหน่งน้อยกว่าที่ตลาดคาด ทำให้ตลาดคาดว่าการลดดอกเบี้ยครั้งแรกจะเกิดขึ้นที่ 50 bps (0.50%) สิ่งที่ตามมาคือความผันผวนของทรัพย์สินต่างๆ และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลง ก่อนปิดตลาดจะกลับมาแข็งค่า ทำให้โดยรวมอ่อนค่าลงเพียงเล็กน้อยที่ -0.02% โดย Bloomberg คาดว่าผลจากตลาดเมื่อวันศุกร์ จะส่งผลมายังตลาดเอเชียในเช้าวันนี้ด้วย

• 2. “นักวิเคราะห์เตือน หุ้นบริษัทขายสินค้าหรูอาจลงได้ต่อ หลังตลาดจีนหดตัวต่อเนื่อง” คำเตือนดังกล่าวมาจากนักวิเคราะทั้งจาก GAM UK, UBS และ Goldman Sachs ที่พะบว่าตลาดสินค้าหรูกำลังชะลอตัวลงจากเศรษฐกิจจีนที่ย่ำแย่อย่างมีนัยสำคัญ โดยมูลค่าบริษัทเหล่านี้หายไปแล้วกว่า 2.4 แสนล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ช่วงมีนาคมที่เป็นจุดสูงสุด โดยบริษัทอย่าง Kering SA เจ้าของแบรนด์ Gucci และ Hugo Boss AG ราคาหุ้นร่วงลงเกิน -40% ด้าน UBS เตือนว่าตลาดนี้กำลังอยู่ในสภาวะชะลอตัวและจะยาวนาน

• 3. “ผลสำรวจเผยบริษัทญี่ปุ่น เริ่มทยอยถอนการลงทุนออกจากประเทศจีน” โดยหอการค้าญี่ปุ่นในประเทศจีนเปิดเผยผลสำรวจที่ระบุว่า มุมมองการลงทุนของบริษัทญี่ปุ่นเกี่ยวกับจีนเปลี่ยนไป เนื่องจากปัญหาการเมืองระหว่างประเทศ ความไม่เป็นมิตรกับการลงทุนจากต่างชาติของรัฐบาลจีน ค่าแรงที่เพิ่มขึ้น แต่ราคาสินค้าที่ขายได้กลับลดลงเรื่อยๆ ทำให้บริษัทกว่าครึ่งตัดสินใจระงับการลงทุน รวมถึงมีแผนลดการลงทุนในจีนด้วย โดยกรณีล่าสุดคือการที่ Nippon Steel ถอนตัวจากธุรกิจร่วมทุนในจีน

• 4. “จีนไม่พอใจเนเธอร์แลนด์ ที่ออกมาตราการควบคุมส่งออกเครื่องผลิตชิปของ ASML” รายงานข่าวดังกล่าวโดย Reuters อ้างอิงแถลงการณ์ของกระทรวงพาณิชย์จีนที่ระบุว่า ไม่พอใจกับมาตราการจำกัดการส่งออกเครื่องผลิตชิปของ ASML โดยรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ และระบุว่าการที่สหรัฐฯ กดดันชาติอื่นๆ เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ไม่ควรใช้มาตราการส่งออกมาจำกัด เพื่อทำลายสัมพันธภาพอันดีระหว่างธุรกิจของทั้งสองประเทศที่มีร่วมกัน

• 5. “ธนาคารกลางจีนหยุดซื้อทองคำเข้าคลังเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน หลังราคาทองพุ่งสูง” โดยตัวเลขปริมาณทองคำของจีนอยู่ที่ 72.8 ล้านดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ไม่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ซึ่งก่อนหน้านี้จีนเข้าซื้อทองคำมาโดยตลอดถึง 18 เดือน และเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ตลาดยังคงมองว่าปัจจัยจากธนาคารกลางของแต่ละประเทศเข้าสะสมทองคำ เป็นปัจจัยบวกสำคัญที่จะอยู่ทั้งปีนี้

• "ตลาดเริ่มรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลง แต่ไม่มั่นใจถึงขนาดของผลกระทบ” การที่ตัวเลขจ้างงานในสัปดาห์ที่แล้วอ่อนกว่าที่ตลาดคาด ทำให้สภาพของตลาดโดยรวมเป็นไปในทิศทางที่ผันผวนสำหรับสินทรัพย์เสี่ยงทั้งหมดเหตุผลสำคัญคือการที่ตลาดยังคงไม่มั่นใจในขนาด (size) ของผลกระทบที่เกิดขึ้น รวมถึงการลดดอกเบี้ยของ FED ด้วยว่าการลดจะเกิดขึ้นในกรอบ 0.25% หรือ 0.50% ทั้งนี้หากตลาดออกมาเป็นทิศทางเศรษฐกิจชะลอตัวหนักเนื่องจากการขึ้นดอกเบี้ยที่มากเกินไปช่วงที่ผ่านมา อาจส่งผลลบกับตราสารทุน และเป็นผลบวกกับตราสารหนี้ได้

• “ปัจจัยที่ต้องติดตาม” อัตราเงินเฟ้อของจีนเช้าวันจันทร์ (CPI) ตลาดคาดที่ 0.5% YoY/0.3% MoM และดัชนีราคาฝั่งผู้ผลิต (PPI) ตลาดคาด -1.3% YoY สำหรับเดือนสิงหาคม

XSpring AM