XAM Weekly X-Ray / 16 ธันวาคม 2024


XAM Shot

  • “จีนประกาศกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม แต่ไม่บอกรายละเอียด (อีกแล้ว) – ตราสารหนี้ตลาดกำลังพัฒนาอาจลำบากในปีหน้า หลังคาดการณ์ออกตราสารหนี้ใหม่เพิ่มขึ้นสูงมาก”

Things you need to know

  • 1. “ประธานาธิบดีเกาหลีใต้หยุดปฎิบัติหน้าที่ หลังสภามีมติถอดถอนจากตำแหน่ง” มติดังกล่าวมีขึ้นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยคะแนนเสียง 204 เสียง และถือเป็นการลงมติครั้งที่สองหลังจากล้มเหลวมาแล้วในครั้งแรก ด้านประธานาธิบดีที่ต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่ชั่วคราวระบุว่าพร้อมที่จะสู้เพิ่ออนาคตของตนเอง หลังจากนี้ศาลรัฐธรรมนูญของเกาหลีใต้จะต้องพิจารณามติถอดถอนนี้ภายใน 180 วัน หากศาลเห็นชอบด้วยจะต้องจัดเลือกตั้งใหม่ภายใน 60 วัน
  • 2. “จีนประกาศมาตราการเพิ่มเติมสนับสนุนตลาดอสังหาฯ และตลาดหุ้น แต่ไม่มีรายละเอียดเพิ่ม” โดยในภาคอสังหาริมทรัพย์จะกระตุ้นให้มีความต้องการซื้อเพิ่ม และจำกัดปริมาณที่ดินที่จะนำไปพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ส่วนในเรื่องของตลาดหุ้นจะติดตามการซื้อขายล่วงหน้าและการควบคุมการใช้มาร์จิ้น (กู้ยืมมาซื้อขาย) รวมถึงขยายกรอบการใช้นโยบายทางการคลังเพิ่มเติม และลดดอกเบี้ย อย่างไรก็ตามมาตราการทั้งหมดยังไม่มีรายละเอียดเพิ่ม นอกจากนั้นตัวเลขการเติบโตของสินเชื่อที่ให้กับภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงเดือนพฤศจิกายน อยู่ในระดับต่ำสุดตั้งแต่พฤศจิกายน 2009
  • 3. “Moody’s ปรับลดความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสลง หลังการเมืองแย่ลง” การปรับความน่าเชื่อถือลงจาก Aa3 มาเป็น Aa2 เกิดขึ้นจากสภาวะทางการเมืองที่ไม่แน่นอน รวมถึงมุมมองว่าฐานะทางการคลังของประเทศน่าจะมีปัญหาภายในระยะยาว เนื่องจากต้องใช้งบประมาณขาดดุลที่มากขึ้น ทั้งนี้หลังจากที่รัฐสภามีมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีคนที่แล้ว ล่าสุดประธานาธิบดีมาครองประกาศแต่งตั้งฟรองซัว บาร์โยร์ อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวงของฝรั่งเศสขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีภารกิจที่ต้องนำร่างงบประมาณให้ผ่านสภาอีกครั้งหนึ่ง
  • 4. “ByteDance อาจจำเป็นต้องขาย TikTok หลังศาลไม่รับพิจารณาคดี ไม่เช่นนั้นจะต้องโดนแบน” ซึ่งตามกำหนดเส้นตายอยู่ที่ 19 มกราคมปีหน้า และในตอนนี้ศาลประกาศไม่รับอุทธรณ์ ทำให้บริษัทเหลือทางเลือกที่น้อยมาก โดย Bloomberg ประเมินว่าบริษัทอาจจะต้องขาย TikTok ออกไปให้คนอื่น และแม้ว่าจะคาดหวังว่าประธานาธิบดีทรัมป์อาจเข้ามาช่วยได้ แต่ผู้ที่มีส่วนในการเสนอกฎหมายนี้รวมถึงคนที่ต่อต้าน TikTok ต่างอยู่ในรัฐบาลชุดใหม่ทั้งสิ้น ทั้งนี้บริษัทจะยื่นคดีที่ศาลฎีกาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้พิจารณายกเลิกกฎหมายนี้
  • 5. “Goldman Sachs, Deutsche Bank คาดรัฐบาลประเทศตลาดกำลังพัฒนา เตรียมออกพันธบัตรเพิ่ม ต่ออายุตราสารหนี้ช่วง COVID ในปีหน้า” คิดเป็นปริมาณรวมกว่า 68% โดยออกมากที่สุดในจีน เกาหลีใต้ และอินโดนีเซีย และมองเพิ่มเติมว่าปีหน้าจะเป็นปีที่ธนาคารกลางจะลดดอกเบี้ยน้อยลง ออกตราสารหนี้มากขึ้น และค่าเงินจะอ่อนค่าลง ด้าน Deutsche Bank ที่ประเมินไปในทิศทางเดียวกันระบุว่า การออกตราสารหนี้เหล่านี้เป็นความเสี่ยงที่สำคัญของตราสารหนี้ในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งอาจขายตราสารหนี้ได้ยากขึ้นกับผู้ลงทุน

Daily Trend

  • "ตลาดเฝ้ารอธนาคารกลางลดดอกเบี้ย” ในสัปดาห์นี้ก่อนจะถึงช่วงหยุดยาวตามเทศกาล ตลาดเฝ้าติดตามการปรับอัตราดอกเบี้ยของ 3 ธนาคารกลางสำคัญคือ FED, BOJ และ BOE โดยในกรณีของ FED ตลาดประเมินว่าจะมีการลดดอกเบี้ยอีกครั้ง และเป็นครั้งส่งท้ายปีอีก 0.25% ส่วนในฝั่งอังกฤษและญี่ปุ่นจะยังคงดอกเบี้ยต่อ ก่อนที่ในกรณีของอังกฤษจะไปลดในปีหน้า ส่วนญี่ปุ่นจะไปขึ้นในปีหน้า ทั้งนี้ในกรณีของญี่ปุ่นถือว่ายังมีความเสี่ยงต่อตลาดทุนอย่างมีนัยสำคัญ โดย TS Lombard ประเมินดอกเบี้ยจะขึ้นแตะระดับ 1.00% ในกลางปีหน้า และอาจส่งผลกระทบต่อตลาดทุนที่อ่อนไหวกับค่าเงิน
  • “ปัจจัยที่ต้องติดตาม” ตัวเลขเศรษฐกิจจีนเดือนพฤศจิกายน ประกอบด้วย ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production) ตลาดคาดเติบโตที่ 5.0% YoY, ยอดขายสินค้าปลีกที่ 4.5% YoY, ตัวเลขการว่างงานที่ 5.2%


XSpring AM