XAM Weekly / 2-5 Jan 2024




แนวโน้มใหญ่รายสัปดาห์

  • มีแรงขายทำกำไรหุ้นสหรัฐในคืนวันที่ 29 ธ.ค. 2023 เพื่อรับรู้กำไรหลังหุ้นปรับตัวขึ้นมาได้ดี คาดหุ้นปรับตัวบวกต่อ

แนวโน้มสัปดาห์นี้

  • สัปดาห์แรกปี 2024 ตลาดน่าจะบวกต่อ โดยเฉพาะ US Laggards ทั้ง Small-Cap และ Property & Infra Stock (+,+)  มองว่าปัจจัยเสี่ยงการเมืองภายในสหรัฐและความขัดแย้งภายนอกทั้ง รัสเซีย-ยูเครน, ตะวันออกกลาง และ US-China Techwar จะยังไม่มี ทำให้ตลาดยัง Go with the flow ไปได้ต่อเนื่อง (+)
  • Theme หลักสำหรับ US Large Cap Stock คือ Sector Rotation ใน Q1 2024 รวมถึง Character Rotation จาก Large to Small Cap ต่อเนื่องจากสองเดือนสุดท้ายของปี 2023 (+) 
  • Thematic Laggards อย่าง TMB-ES-GENOME น่าสนใจสำหรับคนรับความเสี่ยงสูงมาก รวมถึง ASP-DIGIBLOC และกองทุนที่มี Correlation กับ BITCOIN อาทิเช่น TMB-ES-INTERNET และ TMB-ES-FINTECH แต่ต้องแบ่งจังหวะเข้าลงทุนอย่างน้อย 2-3 ครั้ง และดู Technical & Price Pattern ให้ดี รวมถึงต้องเป็นนักลงทุนที่สามารถตัดขายขาดทุนได้หากสถานการณ์กลับทิศไม่เป็นดังที่คิดในตอนแรก (+) 

Weekly Focus

  • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปี 2023 อย่างสง่างาม โดยดัชนี S&P 500 ปิดปีที่ระดับ 4,769 จุด เหนือราคาเป้าหมายของโบรคและธนาคารขนาดใหญ่เป็นอย่างมาก ด้าน Bloomberg Consensus Target ปรับเพิ่มขึ้นไปที่ระดับ 5,100 จุดในปี 2024 ทาง XSpring AM คาดว่าตลาดจะยังปรับตัวบวกต่อ แต่คาดว่าหุ้น US Small Cap Growth จะมี Upside สูงกว่า Large Cap Growth โดยเฉพาะในช่วงที่ยังไม่มีปัจจัย Risk-Off ที่มีนัยยะสำคัญมากระทบตลาด (Base Case)(+) ด้านหุ้นใน S&P 500 หลังปี 2023 เป็นปีทองของหุ้น Large Cap ซึ่งเป็นหุ้นในเซคเตอร์ IT, สินค้าฟุ่มเฟือย และ Communication Services โดย XSpring AM คาดว่าการประกาศงบ Q4 2023 ซึ่งจะเริ่มขึ้นในช่วงกลางเดือน ม.ค. 2024 จะสนับสนุนผลตอบแทนหุ้นกลุ่มวัฏจักรที่ผลตอบแทนยัง Laggards หุ้น Growth อาทิเช่น หุ้นเซคเตอร์ Financial, Energy และ Real Estate (+) และหากช่วงเดือน ม.ค. - ก.พ. 2024 ราคาหุ้นวัฏจักรปรับขึ้นมาได้ดี ก็จะทำให้ Market Breadth ของดัชนี S&P 500 ดูดีขึ้น (จำนวนหุ้นที่ราคาเหนือเส้นค่าเฉลี่ยมีมากขึ้น) ซึ่งจะทำให้ราคาดัชนี S&P 500 ยืนเหนือ 4,800 จุดได้อย่างแข็งแกร่ง เพราะมีปัจจัยส่งเสริมและมีหุ้นเซคเตอร์อื่นช่วยกันประคองตลาดเป็น Upward Spiral รับช่วงต่อหลัง Fed Pivot เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2023 ที่ผ่านมา (+) 
  • หุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นตามโมเมนตัมหุ้นสหรัฐ แต่ Valuation หุ้นยุโรป Stoxx 600 ยังซื้อขายที่ระดับถูกกว่าค่าเฉลี่ยในระยะยาว 10 ปีที่ - 1 S.D. เพราะตลาด Priced-In ความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยอ่อนๆเข้าไปในราคาหุ้นแล้ว ซึ่งทาง XSpring AM มองเห็นว่าหากเศรษฐกิจยุโรป Bottoming-Out จะทำให้คาดการณ์ Earning Per Share เริ่มดีขึ้นในระยะถัดไป ประกอบกับแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของ ECB ในปี 2024 นี้ คาดว่าจะทำให้หุ้นยุโรปมี Upside ที่น่าสนใจ (+) 
  • หุ้นญี่ปุ่น Nikkei 225 ปรับตัวขึ้นได้ดีในปี 2023 โดยเฉพาะช่วง Q2 2023 ที่สามารถ Outperformed หุ้นสหรัฐและยุโรปอย่างโดดเด่น เนื่องจากนโยบายการเงินญี่ปุ่นยังคงผ่อนคลายอย่างมาก แรงกดดันเงินเฟ้อไม่สูง ซึ่งคนละสถานการณ์กับที่สหรัฐและยุโรปเผชิญในช่วงเวลาดังกล่าว แต่มองไปในปี 2024 คาดว่าปัจจัยสนับสนุนหุ้นญี่ปุ่นเริ่มเบาบางลง เนื่องจาก Valuation ค่อนข้างตึงตัว คาดการณ์ Expected Upside เข้าสู่ระดับปกติที่ 6-8% ทบต้นต่อปีในระยะยาว แต่มองเห็นความน่าสนใจของหุ้นญี่ปุ่นในระยะยาวเป็น Secular Trend จากการถือครองน้อยเกินไป (Under-ownded) จากนักลงทุนทั่วโลก 
  • ดัชนี Caixin PMI ภาคการผลิตเดือน ธ.ค. จีนออกมาดีกว่าคาดที่ 50.8 (Exp. 50.4) หุ้นจีนปรับขึ้นได้ดีข่วงสัปดาห์สุดท้ายปี 2023 หลัง Laggards มานานกว่า 3 ปี (Contrarian-Play) ด้านประธานาธิบดีสี จิ้นผิงประกาศจะส่งเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปี 2024 และจะสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาวด้วยการปฏิรูปในเชิงลึก (+) พร้อมระบุว่าไต้หวันจะกลับมารวมกับจีนอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นถ้อยคำที่แข็งกร้าวขึ้นจากครั้งก่อนที่กล่าวว่าไต้หวันเป็นครอบครัวเดียวกับจีน (-) XSpring AM มองว่าปัจจัยหลักที่จะผลักดันหุ้นจีนคือ Fund-Inflow เข้าหุ้นจีนในปริมาณมหาศาล ซึ่งต้องเกิดจากความเชื่อมั่นต่อทิศทางการสนับสนุนเศรษฐกิจทุนนิยมของทางการจีน โดยมองประเด็นจีน-ไต้หวัน จะเพิ่มความเสี่ยงของนโยบายในอนาคตจากสหรัฐ-พันธมิตรที่จะแบน/ขึ้นภาษีจากสินค้าจีนเข้มข้นขึ้นและรัดกุมขึ้นไปอีก (-) ซึ่งปรากฏการณ์ที่จะตามมาคือการแยกห่วงโซ่การผลิตกันอย่างถาวร แยกขั้วอำนาจกันอย่างขัดเจน ประเทศเอเชียต้องบาลานซ์ความสัมพันธ์ระหว่างสองขั้วอำนาจให้ดี เพื่อที่จะยังได้ประโยชน์จากทั้งสหรัฐ-จีน นักลงทุนต้องอดทนและถือลงทุนในหุ้นจีนอีกอย่างน้อย 3-5 ปี (+) เพราะเมื่อใดที่หุ้นสหรัฐและประเทศอื่นๆปรับตัวขึ้นจนเต็มมูลค่าหรือเกิด Worst Case Scenario ในอนาคตอันไกลจนกดทับความน่าสนใจหุ้นกลุ่มดังกล่าวลงมา และในช่วงเวลาเดียวกันหากจีนกลับมาสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนได้ (+) คาดว่าเวลาหุ้นจีนกลับเป็นขาขึ้น ขนาดของการปรับขึ้นจะเยอะมาก (+) แค่ยังไม่ใช่เร็วๆนี้ที่จะเป็นขาขึ้นรอบใหญ่ 
  • หุ้นอินเดียปิดปี 2023 ปรับตัวขึ้นราว 19% หลายปัจจัยสนับสนุนทั้งการลงทุนทางตรงจากต่างชาติ (FDI) ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะส่งเสริมธุรกิจในประเทศอินเดียเองจากการได้องค์ความรู้จากบริษัทต่างชาติขนาดใหญ่ Fund-Inflow จากนักลงทุนทั่วโลกไหลเข้าต่อเนื่องโดยเฉพาะ Fund-Outflow ของนักลงทุนออกจากจีน เศรษฐกิจในประเทศดูดีขึ้นต่อเนื่อง การปฏิรูประบบกฏหมายและราชการอินเดียดึงดูดความน่าสนใจในการทำธุรกิจเพิ่มขึ้นอย่างมาก ที่สำคัญกำไรหุ้นอินเดียเติบโตดีต่อเนื่องในระยะยาว โดย XSpring AM คาดการณ์ว่าหุ้นอินเดียจะเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีต่อเนื่องในระยะยาวที่ระดับผลตอบแทนคาดหวัง 10-13% ทบต้นต่อปี ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า (+)
  • SET Index ปิดปี 2023 ที่ระดับ 1,415 จุดซึ่งการยืนราคาเหนือ 1,400 จุดได้หลายวันทำการสร้างโมเมนตัมเชิงบวกให้ราคาหุ้นไทยซึ่งเป็นดัชนีหุ้นที่ Underperformed อย่างมาก โดยที่แรงกดดันหลักนอกเหนือจาก Earning Revsided Down จะเป็นเรื่อง Governance Issue ที่เกิดขึ้น 3 กรณีในปี 2023 แต่คาดการณ์ว่าด้วยจุดเปลี่ยนหลัง Fed Policy U-Turn จะทำให้เม็ดเงินไหลเข้า EM Equity ซึ่งหุ้นไทยที่ Laggards ก็ยังมีโอกาสรับลมหนุนดังกล่าวและปรับตัวขึ้นเหนือ 1,500 จุดได้ (+) คาดว่า Alpha Fund โดยเฉพาะกองทุนที่เลือกหุ้นที่ Earning Growth ดีกว่า SET จะมีโอกาส Outperformed โดดเด่น โดยมีความเป็นไปได้ที่กองทุนอย่าง ASP-SME, ABSM, TLMSEQ และ ASP-T12 จะปรับขึ้นระดับ 10-15% ในขณะที่ SET อาจจะปรับขึ้นได้ราว 7-10% (+) ในปี 2024

กลยุทธ์การลงทุน

  • Slightly Overweight Global Energy 
  • Slightly Overweight Global Property (Interest Rates Sensitive Theme) 
  • Slightly Overweight German & EU Alpha Stock (Laggards & Low Valuation Play) 
  • Slightly Overweight India & South Korea Stock
  • Slightly Overweight Japan Value Stock
  • Slightly Overweight Laggards Thematic ETF เช่น ARKG ETF
  • Slightly Overweight หุ้นสหรัฐ Small-Cap Blended มีโอกาสฟื้นตัว
  • Slightly Overweight หุ้นไทย Mid-Small Cap Stock มีโอกาสสำหรับกองทุนที่เลือกหุ้น Super Stock มองกองไทย Healthcare มองว่ายังเป็นภาคส่วนที่เป็น Growth Engine สำคัญของไท

คำแนะนำ

  • KT-ENERGY กองทุนหุ้นพลังงาน
  • KKP-GINFRAEQ-H กองทุนหุ้นโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก และ K-GPROP-A(A) กองทุนอสังหาทั่วโลก
  • K-EUROPE กองทุนหุ้นยุโรป, SCBEUSM หุ้นขนาดกลางเล็กยุโรป, TMBGER หุ้นเยอรมัน
  • KT-INDIA, SCBKEQTG อินเดีย & เกาหลีใต้
  • ASP-NGF, TMBJPNAE หุ้นญี่ปุ่น
  • SCBUSSM, ABAGS หุ้นขนาดกลางเล็กสหรัฐ Blended Character
  • TMB-ES-GENOME ตอน ARKG ETF <33$
  • SCBPGF หุ้นโลก Value, UGD หุ้นกลางเล็ก Durable
  • ASP-SME, ABSM, ASP-T12, M-MIDSMALL, TLMSEQ เป็นกองหุ้นไทย Alpha , ONE-HOSPITAL

ดาวน์โหลด